กรมศิลปากร

กรมศิลปากร
The Fine Arts Department

อาคารกรมศิลปากร
ภาพรวมกรม
ก่อตั้ง27 มีนาคม พ.ศ. 2454; 113 ปีก่อน (2454-03-27)
กรมก่อนหน้า
  • ศิลปากรสถาน
ประเภทส่วนราชการ
เขตอำนาจทั่วราชอาณาจักร
สำนักงานใหญ่
บุคลากร2,504 คน (พ.ศ. 2565)[1]
งบประมาณต่อปี2,624,521,700 บาท
(พ.ศ. 2568)[2]
ฝ่ายบริหารกรม
  • พนมบุตร จันทรโชติ, อธิบดี
  • เสริมกิจ ชัยมงคล, รองอธิบดี
  • เจษฎา ชีวะวิชวาลกุล, รองอธิบดี
  • ขนิษฐา โชติกวณิชย์, รองอธิบดี
ต้นสังกัดกรมกระทรวงวัฒนธรรม
ลูกสังกัดกรม
เว็บไซต์เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

กรมศิลปากร (อังกฤษ: The Fine Arts Department) เป็นหน่วยงานของรัฐซึ่งมีภารกิจคุ้มครอง ป้องกัน อนุรักษ์ บำรุงรักษา ฟื้นฟู ส่งเสริม สร้างสรรค์ เผยแพร่ จัดการศึกษา ค้นคว้า วิจัย พัฒนา สืบทอดศิลปะและทรัพย์สินมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติ เพื่อธำรงคุณค่าและเอกลักษณ์ของความเป็นชาติ อันจะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนของสังคมไทยและความมั่นคงของชาติ

ประวัติ

ในอดีตก่อนพุทธศักราช 2454 ประเทศไทยยังไม่มีหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง เกี่ยวกับมรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติ บรรดาโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ประวัติศาสตร์ วรรณกรรม การดนตรี นาฏศิลป์ งานช่างประณีตศิลป์ หอสมุด จดหมายเหตุ และพิพิธภัณฑ์ ฯลฯ กิจการดังกล่าวจึงกระจายการจัดการไว้ตามหน่วยงานต่างๆ ทำให้ราชการบางอย่างยังไม่เป็นระเบียบอันดี หรือมีงานที่ก้าวก่ายกันอยู่

ด้วยเหตุนี้ ในวันที่ 27 มีนาคม 2454 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้โอนกิจการของช่างมหาดเล็กจากกระทรวงวัง และกรมพิพิธภัณฑ์ จากกระทรวงธรรมการ มารวมกันตั้งเป็น “กรมศิลปากร” โดยให้มีผู้บัญชาการขึ้นตรงต่อพระมหากษัตริย์ซึ่งจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผู้ใดในกระทรวงหรือกรมใดเป็นผู้บัญชาการเมื่อใดก็ได้ สุดแต่จะทรงพระราชดำริเห็นเหมาะสม ทั้งนี้ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนเรศรวรฤทธิ์ ทรงเป็นผู้บัญชาการกรมศิลปากรพระองค์แรก

จากพระราชญาณทัศนะของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญของมรดกศิลปวัฒนธรรม อันเป็นมูลฐานแสดงให้เห็นถึงความเจริญของชาติ จึงก่อกำเนิดเป็น “กรมศิลปากร” ซึ่งดำเนินภารกิจดูแลมรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติมาจนถึงปัจจุบัน

บทบาท และหน้าที่

กรมศิลปากรเป็นหน่วยงานของรัฐซึ่งมีหน้าที่ในการสร้างสรรค์ บำรุงรักษา อนุรักษ์ ส่งเสริม และเผยแพร่ศิลปวิทยาการและวัฒนธรรมของชาติในด้านศิลปกรรม พิพิธภัณฑ์ โบราณคดีและโบราณสถาน วรรณกรรม ประวัติศาสตร์ ขนบธรรมเนียม จารีตประเพณี หอสมุดแห่งชาติ หอจดหมายเหตุแห่งชาติ รวมทั้งนาฏศิลป์ ดุริยางคศิลป์ คีตศิลป์ สถาปัตยกรรม และช่างศิลป์ ให้คงอยู่อย่างมั่นคงถาวร

  1. ปกป้อง คุ้มครอง อนุรักษ์ ฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมธำรงจารีตประเพณี พระราชพิธี และรัฐพิธีให้คงความเป็นเอกลักษณ์ของชาติเพื่อเป็นรากฐานในการพัฒนาประเทศไทย
  2. สืบทอด สร้างสรรค์ เผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม
  3. ปรับเปลี่ยนระบบและกลไกการบริหารจัดการมรดกศิลปวัฒนธรรม
  4. บริหารจัดการองค์ความรู้และพัฒนามรดกศิลปวัฒนธรรมให้เป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยว
  5. จัดการศึกษาเฉพาะด้านศิลปวัฒนธรรมเพื่อการอนุรักษ์ สืบทอดและพัฒนาอย่างยั่งยืน

การแบ่งส่วนราชการ

พ.ศ. 2545 มีการปฏิรูประบบราชการของประเทศครั้งใหญ่ กรมศิลปากรย้ายสังกัดจากกระทรวงศึกษาธิการไปสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม และ แบ่งส่วนราชการเป็น 9 หน่วยงาน คือ สำนักเลขานุการกรม สำนักการสังคีต สำนักโบราณคดี สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ สำนักสถาปัตยกรรมและหัตถศิลป์ ต่อมา พ.ศ. 2548 แบ่งส่วนราชการเป็น 10 หน่วยงาน โดยแยกเป็น สำนักสถาปัตยกรรม และ สำนักช่างสิบหมู่

พ.ศ. 2549 กรมศิลปากรปรับปรุงโครงสร้างและการบริหารของสำนักงานศิลปากร ที่ 1-15 จากหน่วยงานในสังกัดสำนักโบราณคดี เป็นราชการส่วนภูมิภาคขึ้นตรงต่อกรมศิลปากร เรียกว่า "สำนักศิลปากรที่ 1-15"

พ.ศ. 2550 สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ วิทยาลัยนาฏศิลป และ วิทยาลัยช่างศิลป แยกไปขึ้นตรงต่อกระทรวงวัฒนธรรม

พ.ศ. 2557 กระทรวงวัฒนธรรม ออกกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมศิลปากรใหม่ โดยแยกกลุ่มโบราณคดีใต้น้ำออกจากสำนักโบราณคดี ยกขึ้นเป็น กองโบราณคดีใต้น้ำ แล้วเปลี่ยนสำนักโบราณคดีเป็นกองโบราณคดี พร้อมทั้งแยกงานเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศมรดกศิลปวัฒนธรรม

พ.ศ. 2560 กระทรวงวัฒนธรรมออกกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมศิลปากรใหม่โดยยุบรวมปรับลดส่วนราชการส่วนภูมิภาคจากสำนักศิลปากรที่ 1-15 เป็น สำนักศิลปากรที่ 1-12

หน่วยงานในสังกัด

สำนักบริหารกลาง

เป็นหน่วยงานกลางที่ดำเนินการเกี่ยวกับการบริหารงานทั่วไปของกรม

กองโบราณคดี

เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการศึกษา ค้นคว้า วิจัยด้านโบราณคดี ตลอดจนการอนุรักษ์และบูรณปฏิสังขรณ์โบราณสถาน

กองโบราณคดีใต้น้ำ

เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการศึกษา ค้นคว้า วิจัยด้านโบราณคดีใต้น้ำ ทั้งทางทะเลและแหล่งน้ำในแผ่นดิน

ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศมรดกศิลปวัฒนธรรม

เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมรดกทางศิลปวัฒนธรรม

สำนักการสังคีต

เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการศึกษา ค้นคว้า วิจัย ตลอดจนอนุรักษ์และสืบทอดด้านศิลปวัฒนธรรมด้านนาฏศิลป์ ดุริยางคศิลป์และคีตศิลป์ของชาติ มีหน่วยงานในสังกัดที่สำคัญ ได้แก่

เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่หลักในการศึกษา ค้นคว้า วิจัยและพัฒนางานด้านช่างศิลปกรรมของชาติ ตลอดจนการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และออกแบบงานช่างฝีมือ

สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ

เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการศึกษา ค้นคว้า และวิจัยเกี่ยวกับโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ตลอดจนงานอนุรักษ์ สงวนรักษาโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และบริหารงานพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ

โดยสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติมีหน้าที่บริหารจัดการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กาญจนาภิเษก จังหวัดปทุมธานี ส่วนพิพิธภัณฑถานแห่งชาติแห่งอื่นจะอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของสำนักศิลปากรในแต่ละท้องที่ โดยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในสังกัดกรมศิลปากรมีดังนี้

  • พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ภาคเหนือ
    • พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระพุทธชินราช บริเวณวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก
    • พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กำแพงเพชร อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร
    • พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ รามคำแหง อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย
    • พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สวรรควรนายก อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย
    • พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน
    • พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน
    • พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เชียงใหม่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
    • พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เชียงแสน อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย
  • พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
    • พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ มหาวีรวงศ์ อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา
    • พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา
    • พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ร้อยเอ็ด อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด
    • พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์
    • พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี
    • พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ขอนแก่น อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น
    • พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเชียง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี

สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์

เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการศึกษา ค้นคว้า วิจัยงานวิชาการด้านภาษา วรรณกรรม ประวัติศาสตร์ และจารีตประเพณี ตลอดจนการแปล เรียบเรียง ตรวจสอบและชำระเอกสารดังกล่าวออกเผยแพร่ในรูปแบบต่าง ๆ

สำนักสถาปัตยกรรม

เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการศึกษา ค้นคว้า วิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ด้านสถาปัตยกรรม วิศวกรรม และมัณฑนศิลป์ รวมไปถึงงานสำรวจ การประมาณราคา และควบคุมงานก่อสร้างตามที่ได้รับมอบหมาย

สำนักหอสมุดแห่งชาติ

เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการสำรวจ รวบรวม จัดเก็บและสงวนรักษาทรัพยากรสารสนเทศในรูปแบบต่าง ๆ เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโสตทัศน์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ เอกสารโบราณ เป็นต้น รวมไปถึงการให้บริการทรัพยากรดังกล่าวแก่ประชาชน นอกจากนี้ยังมีหน้าที่ในการศึกษาวิจัยการดำเนินงานด้านบรรณารักษศาสตร์ สารสนเทศศาสตร์ และเทคโนโลยีสารนิเทศ

สำหรับการบริหารจัดการของสำนักหอสมุดแห่งชาติ มีหอสมุดแห่งชาติในสังกัด ได้แก่ หอสมุดแห่งชาติ หอสมุดดนตรีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และห้องสมุดดนตรีทูลกระหม่อมสิรินธร ส่วนหอสมุดแห่งชาติแห่งอื่นจะอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของสำนักศิลปากรในแต่ละท้องที่ โดยหอสมุดแห่งชาติในสังกัดกรมศิลปากรมีดังนี้

สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ

  • หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
  • หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เชียงใหม่ พื้นที่รับผิดชอบ : เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก และนครสวรรค์
  • หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตรัง พื้นที่รับผิดชอบ : ตรัง กระบี่ ภูเก็ต พังงา และระนอง
  • หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ยะลา พื้นที่รับผิดชอบ : ยะลา นราธิวาส ปัตตานี และสตูล
  • หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สงขลา พื้นที่รับผิดชอบ : สงขลา พัทลุง นครศรีธรรมราช สตูล สุราษฎร์ธานี และชุมพร
  • หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พะเยา พื้นที่รับผิดชอบ : พะเยา เชียงราย น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิจิตร และเพชรบูรณ์
  • หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร อุบลราชธานี พื้นที่รับผิดชอบ : อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา ชัยภูมิ ขอนแก่น เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ ยโสธร ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ และมหาสารคาม
  • หอจดหมายเหตุแห่งชาติ จังหวัดสุพรรณบุรี พื้นที่รับผิดชอบ : สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์
  • หอจดหมายเหตุแห่งชาติ จังหวัดจันทบุรี พื้นที่รับผิดชอบ : จันทบุรี ตราด ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว
  • หอจดหมายเหตุนายกรัฐมนตรี พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ทำหน้าที่รวบรวมเก็บรักษาเอกสารและสิ่งของที่เนื่องในภารกิจของพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ
  • หอเกียรติยศ ฯพณฯ บรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 21 ทำหน้าที่รวบรวมเก็บรักษาเอกสารรวมทั้งการจัดนิทรรศการประวัติผลงานและสิ่งของที่เนื่องในภารกิจของนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ตั้งอยู่ที่บริเวณศูนย์ราชการจังหวัดสุพรรณบุรี (ดอนย่างแย้)

สำนักศิลปากร

เป็นหน่วยงานของกรมศิลปากรที่มีหน้าที่บริหารจัดการหน่วยงานของกรมศิลปากรที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งกระจายตัวอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ รวม 12 สำนัก ดังนี้

อุทยานประวัติศาสตร์

อุทยานประวัติศาสตร์ หมายถึง บริเวณสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี โดยมีความหมายครอบคลุมทั้งโบราณสถาน และสภาพแวดล้อมหรือภูมิทัศน์ที่เกี่ยวเนื่องกับโบราณสถาน โดยอุทยานประวัติศาสตร์ของกรมศิลปากรจะอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของสำนักศิลปากรในแต่ละท้องที่

ส่วนเกี่ยวข้อง

มหาวิทยาลัยศิลปากร

อ้างอิง

  1. กรมศิลปากร, รายงานประจำปี 2565 กรมศิลปากร, สืบค้นเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2567
  2. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘, เล่ม ๑๔๑ ตอนที่ ๕๙ ก หน้า ๗๐, ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗
  3. "หอสมุดแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติ ร.9 นครราชสีมา".
  4. "หอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร". www.nlt.go.th.

แหล่งข้อมูลอื่น