การลงจอดโดยใช้ลำตัวเครื่อง

ลอตโปลิชแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 16 ขณะลงจอดโดยใช้ลำตัวเครื่อง

การลงจอดโดยใช้ลำตัวเครื่อง หรือ การลงจอดโดยใช้ใต้ท้องเครื่อง (อังกฤษ: Belly landing / Gear-up landing) เกิดขึ้นเมื่ออากาศยานลงจอดโดยไม่ใช้ล้อลงจอด แต่ใช้ส่วนล่างของลำตัวเครื่องหรือใต้ท้องเครื่องเป็นอุปกรณ์หลักสำหรับการลงจอดนั้นแทน แต่โดยปกติแล้ว การลงจอดโดยไม่กางล้อลงจอด (gear-up landing) มักจะกล่าวถึงเหตุการณ์ที่นักบินลืมกางล้อลงจอด แต่ การลงจอดโดยใช้ใต้ท้องเครื่อง (belly landing) มักจะกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดเหตุขัดข้องใดๆ หนึ่งๆ ที่ส่งผลให้ไม่สามารถกางล้อลงจอดได้

ในการลงจอดโดยใช้ลำตัวเครื่อง เครื่องบินมักจะได้รับความเสียหายอย่างหนักและมีความเสี่ยงที่เครื่องบินจะพลิกคว่ำ พังทลาย หรือลุกไหม้ได้หากลงจอดเร็วหรือแรงเกินไป นักบินจึงจำเป็นต้องใช้ความแม่นยำสูงสุดเพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องบินจะลงจอดตรงและราบเรียบที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในขณะที่รักษาความเร็วให้เพียงพอต่อควบคุมเครื่องบิน แต่ถ้าหากมีลมกระโชกแรง ทัศนวิสัยไม่ดี เครื่องบินได้รับความเสียหาย หรือเครื่องมือหรืออุปกรณ์ควบคุมไม่ตอบสนอง ความเสี่ยงในการลงจอดจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม การลงจอดโดยใช้ลำตัวเครื่องเป็นอุบัติเหตุทางเครื่องบินที่พบบ่อยที่สุดประเภทหนึ่ง และโดยปกติจะไม่ถึงแก่ชีวิตหากดำเนินการอย่างระมัดระวัง[ต้องการอ้างอิง]

ตัวอย่าง

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 2011 ลอตโปลิชแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 16 เป็นเครื่องบินโบอิง 767 กัปตันตาแดอุช วรอนา ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเนื่องจากสูญเสียระบบล้อลงจอดระหว่างเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาตินวร์กลิเบอร์ตีสู่ท่าอากาศยานวอร์ซอโชแปง เครื่องบินที่เกิดเหตุเป็นลำที่ใหม่ที่สุดในฝูงบิน โดยได้ลงจอดโดยใช้ลำตัวเครื่องในกรุงวอร์ซอและเกิดเพลิงไหม้เล็กน้อย แต่ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดได้รับการอพยพออกไปโดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ท่าอากาศยานถูกปิดให้บริการนานกว่าหนึ่งวันหลังจากอุบัติการณ์ดังกล่าว[1]

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 2020 ปากีสถานอินเตอร์แนชนัลแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 8303 เป็นเครื่องบินแอร์บัส เอ320 ได้ลงจอดโดยที่ไม่กางล้อลงจอดเนื่องจากความผิดพลาดของนักบิน แม้ว่าลูกเรือจะพยายามบินวนกลับ แต่การลงจอดโดยไม่กางล้อลงจอดทำให้เครื่องยนต์ทั้งสองเครื่องได้รับความเสียหาย ซึ่งต่อมาล้มเหลวขณะจากบินวนกลับ ส่งผลให้เครื่องบินตกในย่านที่พักอาศัยที่มีประชากรหนาแน่นใกล้กับท่าอากาศยานนานาชาติอัลลามา อิกบัล นครการาจี โดยมีผู้เสียชีวิต 97 รายจากทั้งหมด 99 รายบนเครื่อง และหนึ่งรายบนพื้นดิน

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ค.ศ. 2023 เฟดเอกซ์เอกซ์เพรส เที่ยวบินที่ 1376 เป็นเครื่องบินโบอิง 757 ซึ่งทำการบินจากท่าอากาศยานแชตตานูกาเมโทรโพลิตัน มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานนานาชาติเม็มฟิส ถูกบังคับให้บินกลับและลงจอดโดยใช้ลำตัวเครื่องหลังไม่สามารถกางล้อลงจอดได้ เครื่องบินได้ไถลออกนอกทางวิ่งโดยไม่มีลูกเรือบนเครื่องได้รับบาดเจ็บ[2]

เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม ค.ศ. 2024 เครื่องบินโบอิง 737-800 ดำเนินการเชจูแอร์ เที่ยวบินที่ 2216 ลงจอดโดยใช้ลำตัวเครื่องที่ท่าอากาศยานมูอัน ประเทศเกาหลีใต้ ภายหลังระบบลงจอดขัดข้องจากรายงานนกชนเครื่องบิน เครื่องบินไม่สามารถหยุดบนทางวิ่งได้ ชนเข้ากับรั้วกั้นเขตสนามบินและระเบิดลุกเป็นไฟ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 179 ราย มีผู้รอดชีวิต 2 ราย จากผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่องทั้งหมด 181 ราย[3][4][5]

อ้างอิง

  1. "LOT belly landing in Warsaw". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 April 2012. สืบค้นเมื่อ 1 November 2011.
  2. Pare, Mike (October 5, 2023). "WATCH: Federal investigator arrives at Chattanooga Airport after crash landing". Chattanooga Times Free Press. สืบค้นเมื่อ October 9, 2023.
  3. "Jeju Air plane crashes while landing in South Korea; 28 dead". สืบค้นเมื่อ December 29, 2024.
  4. "At least 47 people dead in South Korea plane crash". สืบค้นเมื่อ December 29, 2024.
  5. "Fiery plane crash kills 179 in worst airline disaster in South Korea". สืบค้นเมื่อ January 6, 2025.