ดาวเอริส


เอริส  ⯰

เอริส(กลาง) และดิสโนเมีย(ซ้าย)
การค้นพบ
ค้นพบโดย:ไมเคิล อี. บราวน์ และคณะ
ค้นพบเมื่อ:21 ตุลาคม พ.ศ. 2546
ชื่ออื่น ๆ:2003 UB313
ชนิดของดาวเคราะห์น้อย:ดาวเคราะห์แคระ
วัตถุพ้นดาวเนปจูน
ลักษณะของวงโคจร
ต้นยุคอ้างอิง 6 มีนาคม พ.ศ. 2549
(JD 2453800.5)
ระยะจุดไกล
ดวงอาทิตย์ที่สุด
:
97.56 หน่วยดาราศาสตร์
(14.60 เทระเมตร)
ระยะจุดใกล้
ดวงอาทิตย์ที่สุด
:
37.77 หน่วยดาราศาสตร์
(5.65 เทระเมตร)
กึ่งแกนเอก:67.6681 หน่วยดาราศาสตร์
(10.12 เทระเมตร)
ความเยื้องศูนย์กลาง:0.44177
คาบดาราคติ:203,500 วัน
(557 ปี)
อัตราเร็วเฉลี่ย
ในวงโคจร
:
3.436 กม./วินาที
อัตราเร็วสูงสุด
ในวงโคจร:
4.126 กม./วินาที
อัตราเร็วต่ำสุด
ในวงโคจร:
2.567 กม./วินาที
มุมกวาดเฉลี่ย:197.63427°
ความเอียง:44.187°
ลองจิจูด
ของจุดโหนดขึ้น
:
35.8696°
มุมของจุด
ใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด
:
151.4305°
จำนวนดาวบริวาร:1 ชื่อ ดิสนอเมีย
ลักษณะทางกายภาพ
เส้นผ่านศูนย์กลาง
ตามแนวศูนย์สูตร:
1200 กม. ± 50 กม.
(19% ของโลก)
มวล:1.6×1022กก.
คาบการหมุน
รอบตัวเอง
:
>8 ชม.?
อัตราส่วนสะท้อน:0.86 ± 0.07
อุณหภูมิ:ประมาณ 30 K

136199 เอริส (Eris, สัญลักษณ์: ⯰)[1] หรือ 2003 UB313 เป็นดาวเคราะห์แคระหนึ่งในวัตถุพ้นดาวเนปจูน (Trans-Neptunian Object - TNO) เป็นดาวเคราะห์แคระดวงใหญ่ เป็นลำดับที่ 2 ในระบบสุริยะที่ถูกค้นพบในปัจจุบัน มีขนาดเล็กกว่าดาวพลูโตเล็กน้อย มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1445 กิโลเมตร(ขนาดดาวพลูโต 1473 กิโลเมตร) มีดวงจันทร์บริวาร 1 ดวง ชื่อ ดิสโนเมีย (Dysnomia)

เอริสถูกค้นพบโดย ไมเคิล อี. บราวน์และคณะ เมื่อวันที่ 5 มกราคม ค.ศ. 2005 จากภาพที่ถ่ายไว้เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ค.ศ. 2003 ด้วยกล้องโทรทรรศน์ของหอดูดาวพาโลมาร์ รัฐแคลิฟอร์เนีย คณะผู้ค้นพบได้เสนอให้ตั้งชื่อดาวที่พบใหม่นี้ว่า ซีนา (Xena) ตามชื่อของละครโทรทัศน์ Xena: Warrior Princess โดยตัวอักษร X หมายถึง ดาวเคราะห์ X ที่เปอร์ซิวัล โลเวลล์ เคยเสนอไว้ และให้ดวงจันทร์บริวารของมันใช้ชื่อว่า แกเบรียลล์ (Gabrielle) แต่ไม่ได้มีการประกาศใช้ชื่อนี้อย่างเป็นทางการ

ภายหลังการค้นพบ คณะผู้ค้นพบและนาซาได้ประกาศว่าเอริสเป็น ดาวเคราะห์ดวงที่ 10 แต่จากการประชุมสหพันธ์ดาราศาสตร์สากล ที่กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2549 ได้ข้อสรุปว่าเอริสไม่จัดเป็นดาวเคราะห์ แต่เป็นดาวเคราะห์แคระ

ชื่อเอริส มาจากชื่อของเทพเจ้าแห่งความวุ่นวาย ผู้วางอุบายโดยใช้แอปเปิลทองคำ เพื่อทำให้เฮรา อาเทนา และอะโฟรไดต์ ซึ่งเป็นสามเทวีพรหมจรรย์ในบรรดาเทพแห่งโอลิมปัสแตกคอกัน เพราะว่าไม่ได้เชิญนางมางานเลี้ยงของเทพ ส่วน ดิสโนเมีย คือชื่อธิดาของเอริส

แหล่งข้อมูลอื่น

ตัวอย่างการอ้างอิง

  1. JPL/NASA (2015-04-22). "What is a Dwarf Planet?". Jet Propulsion Laboratory. สืบค้นเมื่อ 2022-01-19.