ยูฟ่าเนชันส์ลีก 2021 รอบสุดท้าย
รายละเอียดการแข่งขัน | |
---|---|
ประเทศเจ้าภาพ | อิตาลี |
วันที่ | 6–10 ตุลาคม |
ทีม | 4 |
สถานที่ | 2 (ใน 2 เมืองเจ้าภาพ) |
อันดับเมื่อสิ้นสุดการแข่งขัน | |
ชนะเลิศ | ฝรั่งเศส (สมัยที่ 1) |
รองชนะเลิศ | สเปน |
อันดับที่ 3 | อิตาลี |
อันดับที่ 4 | เบลเยียม |
สถิติการแข่งขัน | |
จำนวนนัดที่แข่งขัน | 4 |
จำนวนประตู | 14 (3.5 ประตูต่อนัด) |
ผู้ชม | 94,168 (23,542 คนต่อนัด) |
ผู้ทำประตูสูงสุด | การีม แบนเซมา กีลียาน อึมบาเป เฟร์รัน ตอร์เรส (2 ประตู) |
ผู้เล่นยอดเยี่ยม | เซร์ฆิโอ บุสเกตส์[1] |
การแข่งขัน ยูฟ่าเนชันส์ลีก 2021 รอบสุดท้าย เป็นทัวร์นาเมนต์รอบสุดท้ายของฤดูกาล 2020–21 ของยูฟ่าเนชันส์ลีก, ฤดูกาลที่สองของการแข่งขันฟุตบอลนานาชาติที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลชายทีมชาติของ 55 ชาติสมาชิกของ ยูฟ่า. ทัวร์นาเมนต์จะจัดขึ้นในเดือนกันยายนหรือตุลาคม ค.ศ. 2021, และจะแข่งขันกันโดยสี่ทีมชนะเลิศกลุ่มของ เนชันส์ลีก ลีก เอ. ทัวร์นาเมนต์จะประกอบไปด้วยรอบรองชนะเลิศสองนัด, เพลย์ออฟอันดับที่สาม และรอบชิงชนะเลิศที่จะตัดสินหาทีมชนะเลิศของ ยูฟ่าเนชันส์ลีก.
รูปแบบการแข่งขัน
เนชันส์ลีก รอบสุดท้ายจะจัดขึ้นในเดือนกันยายนหรือตุลาคม ค.ศ. 2021 และจะแข่งขันกันโดยสี่ทีมชนะเลิศกลุ่มของ ลีก เอ. สี่ทีมจะถูกจับสลากแต่ละทีมอยู่ในกลุ่มที่มีฟ้าทีม (มากกว่าหนึ่งกลุ่มที่มีหกทีม) สำหรับ ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก รอบแบ่งกลุ่ม, ดังนั้นจึงออกไปจากหน้าต่างเดือนกันยายนหรือตุลาคม ค.ศ. 2021 มีให้สำหรับเนชันส์ลีก รอบสุดท้าย.[2]
เนชันส์ลีก รอบสุดท้าย จะลงเล่นในเลกเดียวแพ้คัดออกในแต่ละนัด, ประกอบไปด้วยรอบรองชนะเลิศสองนัด, เพลย์ออฟอันดับที่ 3 และรอบชิงชนะเลิศหนึ่งนัด. การประกบคู่รอบรองชนะเลิศ, พร้อมกับทีมบริหารเจ้าบ้านสำหรับเพลย์ออฟ อันดับที่สามและรอบชิงชนะเลิศ, จะถูกกำหนดโดยความหมายของการเปิดตัวการจับสลาก. ถ้าสกอร์ยังคงระดับที่จบของเวลาปกติ, 30 นาทีของ ต่อเวลาพิเศษ จะลงเล่น, ในขณะที่แต่ละทีมจะได้รับอนุญาตที่จะสร้างการเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนที่สี่.[3] ถ้าสกอร์ยังคงเท่ากัน, ผู้ชนะจะถูกตัดสินโดย การดวลลูกโทษ. แมตช์ทั้งหมดในทัวร์นาเมนต์จะใช่ประโยชน์จากระบบ เทคโนโลยีโกลไลน์ และ ผู้ช่วยผู้ตัดสินวิดีโอ (วีเออาร์).[4]
ทีมที่เข้ารอบ
แชมป์กลุ่มจากสี่กลุ่มของ ลีก เอ จะได้เข้ารอบสำหรับเนชันส์ลีก รอบสุดท้าย.
กลุ่ม | ชนะเลิศ | วันที่ ผ่านการคัดเลือก |
จำนวนการลงสนามรอบสุดท้ายครั้งที่ผ่านมา | ยูเอ็นแอล แรงกิงส์ พฤศจิกายน ค.ศ. 2020 |
ฟีฟ่า แรงกิงส์ กันยายน ค.ศ. 2021 |
---|---|---|---|---|---|
เอ1 | อิตาลี (เจ้าภาพ) | 18 พฤศจิกายน 2020 | 0 (ครั้งแรก) | 3 | 5 |
เอ2 | เบลเยียม | 18 พฤศจิกายน 2020 | 0 (ครั้งแรก) | 2 | 1 |
เอ3 | ฝรั่งเศส | 14 พฤศจิกายน 2020 | 0 (ครั้งแรก) | 1 | 4 |
เอ4 | สเปน | 17 พฤศจิกายน 2020 | 0 (ครั้งแรก) | 4 | 8 |
ตารางการแข่งขัน
เนชันส์ลีก รอบสุดท้าย, ตามกำหนดเดิมสำหรับวันที่ 2–6 มิถุนายน ค.ศ. 2021, ย้ายไปเป็นวันที่ 6–10 ตุลาคม ค.ศ. 2021 เป็นไปตามการกำหนดการแข่งขันใหม่ของ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 ไปเป็นเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม ค.ศ. 2021 เนื่องจาก การระบาดทั่วของโควิด-19.[5][2] ทัวร์นาเมนต์จะเกิดขึ้นในช่วงห้าวัน, กับรอบรองชนะเลิศในหลายวันต่อเนื่อง (ครั้งแรกของที่มีคุณสมบัติทีมเจ้าภาพ), และเพลย์ออฟอันดับที่ 3 และรอบชิงชนะเลิศสามวันหลังจากรอบรองชนะเลิศคู่ที่สอง.
สายการแข่งขัน
รอบรองชนะเลิศ | รอบชิงชนะเลิศ | |||||
6 ตุลาคม – มิลาน | ||||||
อิตาลี | 1 | |||||
10 ตุลาคม – มิลาน | ||||||
สเปน | 2 | |||||
สเปน | 1 | |||||
7 ตุลาคม – ตูริน | ||||||
ฝรั่งเศส | 2 | |||||
เบลเยียม | 2 | |||||
ฝรั่งเศส | 3 | |||||
นัดชิงอันดับที่ 3 | ||||||
10 ตุลาคม – ตูริน | ||||||
อิตาลี | 2 | |||||
เบลเยียม | 1 |
เวลาทั้งหมดคือเวลาท้องถิ่น, CEST (UTC+2).
รอบรองชนะเลิศ
อิตาลี พบ สเปน
อิตาลี | 1–2 | สเปน |
---|---|---|
เปเยกรีนี 83' | รายงาน | ฟ. ตอร์เรส 17', 45+2' |
อิตาลี[7]
|
สเปน[7]
|
|
|
ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำนัด:
ผู้ช่วยผู้ตัดสิน:[7]
|
เบลเยียม พบ ฝรั่งเศส
เบลเยียม | 2–3 | ฝรั่งเศส |
---|---|---|
การ์รัสโก 37' ลูกากู 40' |
รายงาน | แบนเซมา 62' อึมบาเป 69' (ลูกโทษ) ท. แอร์น็องแดซ 90' |
เบลเยียม[10]
|
ฝรั่งเศส[10]
|
|
|
ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำนัด:
ผู้ช่วยผู้ตัดสิน:
|
นัดชิงอันดับที่ 3
อิตาลี[13]
|
เบลเยียม[13]
|
|
|
ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำนัด:
ผู้ช่วยผู้ตัดสิน:[13]
|
รอบชิงชนะเลิศ
สเปน[16]
|
ฝรั่งเศส[16]
|
|
|
ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำนัด:
ผู้ช่วยผู้ตัดสิน:[18]
|
สถิติ
อันดับผู้ทำประตู
มีการทำประตู 14 ประตู จากการแข่งขัน 4 นัด เฉลี่ย 3.5 ประตูต่อนัด
การทำประตู 2 ครั้ง
การทำประตู 1 ครั้ง
- ยานิก การ์รัสโก
- ชาร์ลีส เดอ แคแตลาแอเรอ
- โรเมลู ลูกากู
- เตโอ แอร์น็องแดซ
- นีโกเลาะ บาเรลลา
- โดเมนีโก เบราร์ดี
- โลเรนโซ เปเยกรีนี
- มิเกล โอยาร์ซาบัล
แหล่งที่มา : ยูฟ่า
รางวัล
ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์
รางวัล Hisense ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำรอบสุดท้ายได้มอบให้กับ เซร์ฆิโอ บุสเกตส์, ซึ่งได้รับเลือกจากผู้สังเกตการณ์ทางเทคนิคของยูฟ่า.[1]
ดาวซัลโวสูงสุด
"Alipay รางวัลดาวซัลโวสูงสุด", มอบให้กับผู้ทำประตูสูงสุดในเนชันส์ลีก รอบสุดท้าย,[19] มอบรางวัลนี้ให้กับ กีลียาน อึมบาเป, ผู้ที่จบด้วยสองประตูและสองแอสซิสต์ในเนชันส์ลีก รอบสุดท้าย.[20] การจัดอันดับถูกกำหนดโดยใช้เกณฑ์ดังต่อไปนี้: 1) ประตูในเนชันส์ลีก รอบสุดท้าย, 2) การผ่านบอลในเนชันส์ลีก รอบสุดท้าย, 3) นาทีที่น้อยที่สุดที่ลงเล่นในเนชันส์ลีก รอบสุดท้าย, 4) ประตูในเฟสลีก.[21]
อันดับ | ผู้เล่น | ประตู | แอสซิสต์ | นาที |
---|---|---|---|---|
กีลียาน อึมบาเป | 2 | 2 | 180 | |
เฟร์รัน ตอร์เรส | 2 | 0 | 133 | |
การีม แบนเซมา | 2 | 0 | 179 |
ประตูยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์
กัซปรอม ประตูยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ถูกตัดสินโดยการโหวตจากช่องทางออนไลน์. รวมทั้งสิ้นสี่ประตูที่อยู่ในรายชื่อผู้ผ่านเข้ารอบ, คัดเลือกโดยผู้สังเกตการณ์ทางเทคนิคของยูฟ่า: การีม แบนเซมา (ในนัดที่พบกับ สเปน), เฟร์รัน ตอร์เรส (สองประตู ในนัดที่พบกับ อิตาลี), เตโอ แอร์น็องแดซ (ในนัดที่พบกับ เบลเยียม) และ โรเมลู ลูกากู (ในนัดที่พบกับ ฝรั่งเศส). แบนเซมาชนะรางวัลนี้สำหรับผระตูของเขาในนัดชิงชนะเลิศ.[22]
อันดับ | ผู้ทำประตู | คู่แข่งขัน | สกอร์ | ผล | รอบ |
---|---|---|---|---|---|
การีม แบนเซมา | ฝรั่งเศส | 1–1 | 2–1 | รอบชิงชนะเลิศ |
อ้างอิง
- ↑ 1.0 1.1 "Sergio Busquets named 2021 UEFA Nations League Player of the Finals". UEFA.com. Union of European Football Associations. 10 October 2021. สืบค้นเมื่อ 10 October 2021.
- ↑ 2.0 2.1 "European Qualifiers: FIFA World Cup – Qualifying draw procedure" (PDF). UEFA.com. Union of European Football Associations. 18 June 2020. สืบค้นเมื่อ 18 June 2020.
- ↑ "Amendments to football's Laws of the Game in various UEFA competitions". UEFA.com. Union of European Football Associations. 5 July 2018. สืบค้นเมื่อ 5 July 2018.
- ↑ "Regulations of the UEFA Nations League, 2020/21" (PDF). UEFA.com. Union of European Football Associations. 13 October 2019. สืบค้นเมื่อ 13 October 2019.
- ↑ "Resolution of the European football family on a coordinated response to the impact of the COVID-19 on competitions". UEFA.com. Union of European Football Associations. 17 March 2020. สืบค้นเมื่อ 17 March 2020.
- ↑ "Full Time Report – Semi-finals – Italy v Spain" (PDF). UEFA.com. Union of European Football Associations. 6 October 2021. สืบค้นเมื่อ 6 October 2021.
- ↑ 7.0 7.1 7.2 "Tactical Line-ups – Semi-finals – Italy v Spain" (PDF). UEFA.com. Union of European Football Associations. 6 October 2021. สืบค้นเมื่อ 6 October 2021.
- ↑ "Italy 1–2 Spain: Ferran Torres double ends Azzurri run". UEFA.com. Union of European Football Associations. 6 October 2021. สืบค้นเมื่อ 6 October 2021.
- ↑ "Full Time Report – Semi-finals – Belgium v France" (PDF). UEFA.com. Union of European Football Associations. 7 October 2021. สืบค้นเมื่อ 7 October 2021.
- ↑ 10.0 10.1 "Tactical Line-ups – Semi-finals – Belgium v France" (PDF). UEFA.com. Union of European Football Associations. 7 October 2021. สืบค้นเมื่อ 7 October 2021.
- ↑ "Belgium 2–3 France: Theo Hernández completes stunning comeback". UEFA.com. Union of European Football Associations. 7 October 2021. สืบค้นเมื่อ 7 October 2021.
- ↑ "Full Time Report – Third-place match – Italy v Belgium" (PDF). UEFA.com. Union of European Football Associations. 10 October 2021. สืบค้นเมื่อ 10 October 2021.
- ↑ 13.0 13.1 13.2 "Tactical Line-ups – Third-place match – Italy v Belgium" (PDF). UEFA.com. Union of European Football Associations. 10 October 2021. สืบค้นเมื่อ 10 October 2021.
- ↑ "Italy 2–1 Belgium: Azzurri secure third place at Nations League finals". UEFA.com. Union of European Football Associations. 10 October 2021. สืบค้นเมื่อ 10 October 2021.
- ↑ "Full Time Report – Final – Spain v France" (PDF). UEFA.com. Union of European Football Associations. 10 October 2021. สืบค้นเมื่อ 10 October 2021.
- ↑ 16.0 16.1 "Tactical Line-ups – Final – Spain v France" (PDF). UEFA.com. Union of European Football Associations. 10 October 2021. สืบค้นเมื่อ 10 October 2021.
- ↑ "Spain 1–2 France: Les Bleus seal trophy with another comeback". UEFA.com. Union of European Football Associations. 10 October 2021. สืบค้นเมื่อ 10 October 2021.
- ↑ "English ref Anthony Taylor and his team to take charge of Spain v France in Milan". The Football Association. 8 October 2021. สืบค้นเมื่อ 8 October 2021.
- ↑ "Alipay Top Scorer trophy unveiled for UEFA Nations League". UEFA.com. Union of European Football Associations. 5 October 2021. สืบค้นเมื่อ 5 October 2021.
- ↑ "UEFA Nations League finals top scorer: Kylian Mbappé". UEFA.com. Union of European Football Associations. 10 October 2021. สืบค้นเมื่อ 10 October 2021.
- ↑ "Alipay Top Scorer". UEFA.com. Union of European Football Associations. 10 October 2021. สืบค้นเมื่อ 10 October 2021.
- ↑ "Goal of the Tournament". UEFA.com. Union of European Football Associations. 13 October 2021. สืบค้นเมื่อ 13 October 2021.