ลำดับชั้นหลักฐาน
ลำดับชั้นหลักฐาน[1] (อังกฤษ: Evidence hierarchies) สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือโดยเปรียบเทียบของงานวิจัยทางชีวเวช (biomedical research) ประเภทต่าง ๆ ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีลำดับชั้นหลักฐานที่ยอมรับกันโดยทั่วไป แต่ว่า ก็ยังมีมติร่วมกันอย่างกว้าง ๆ เกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของงานวิจัยประเภทหลัก ๆ คือ การทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม (RCT) น่าเชื่อถือกว่างานศึกษาแบบสังเกต (observational studies) ในขณะที่ความเห็นผู้เชี่ยวชาญ (expert opinion) และหลักฐานโดยเรื่องเล่า (anecdotal evidence) น่าเชื่อถือน้อยที่สุด ลำดับชั้นหลักฐานบางอย่างจะถือว่าการปริทัศน์เป็นระบบ (systematic review) และการวิเคราะห์อภิมาน (meta analysis) น่าเชื่อถือกว่า RCT เพราะว่างานเหล่านี้มักจะรวบรวมข้อมูลจาก RCT หลาย ๆ งาน และจากงานประเภทอื่น ๆ ด้วย ลำดับชั้นหลักฐานเป็นเรื่องสำคัญของเวชปฏิบัติอิงหลักฐาน (evidence-based medicine)
มีคำวิจารณ์ว่าลำดับชั้นหลักฐานแบบต่าง ๆ ให้ความเชื่อถือแก่ RCT มากเกินไป เพราะว่า ปัญหางานวิจัยทั้งหมดไม่สามารถตอบได้โดยใช้ RCT เพราะว่า เป็นงานที่ทำได้ยาก หรือเพราะมีปัญหาทางจริยธรรม นอกจากนั้นแล้ว แม้ว่าจะมีหลักฐานจาก RCT ที่มีคุณภาพสูง แต่หลักฐานจากงานวิจัยประเภทอื่น ๆ ก็ยังอาจจะสำคัญ
มีนักวิชาการท่านหนึ่งเสนอว่า[2][3]
น้ำหนักความน่าเชื่อถือของงานวิจัยประเภทต่าง ๆ (คือ ลำดับชั้นหลักฐาน) เมื่อต้องตัดสินใจทำการรักษา จะให้ลำดับดังต่อไปนี้ คือ
- การปริทัศน์เป็นระบบ และการวิเคราะห์อภิมาน ของ "RCT ที่มีผลชัดเจน".
- การทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมที่มีผลชัดเจน คือมีช่วงความเชื่อมั่น (confidence interval) ที่ไม่คาบเกี่ยวกับค่าขีดเริ่มต้นของผลที่จัดว่ามีนัยสำคัญทางคลินิก
- การทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมที่มีผลไม่ชัดเจน คือมีช่วงความเชื่อมั่น (confidence interval) ที่คาบเกี่ยวกับค่าขีดเริ่มต้นของผลที่จัดว่ามีนัยสำคัญทางคลินิก (ซึ่งก็คือ ผลที่ได้จากวิธีการรักษามีค่าต่ำจนกระทั่งไม่ชัดเจนว่า มีผลจริง ๆ หรือไม่)
- งานศึกษาตามรุ่น (Cohort studies)
- งานศึกษามีกลุ่มควบคุม (Case-control studies)
- งานศึกษาแบบข้ามกลุ่ม (Cross-sectional study)
- รายงานเค้ส (Case reports)
เชิงอรรถและอ้างอิง
- ↑ "ศัพท์บัญญัติอังกฤษ-ไทย, ไทย-อังกฤษ ฉบับราชบัณฑิตสถาน (คอมพิวเตอร์) รุ่น ๑.๑", ให้ความหมายของ hierarchy ว่า "ลำดับชั้น"
- ↑ Greenhalgh, T (July 1997). "How to read a paper. Getting your bearings (deciding what the paper is about)". BMJ. 315 (7102): 243–6. doi:10.1136/bmj.315.7102.243. PMC 2127173. PMID 9253275.
- ↑ Guyatt, GH; Sackett, DL; Sinclair, JC; Hayward, R; Cook, DJ; Cook, RJ (December 1995). "Users' guides to the medical literature. IX. A method for grading health care recommendations. Evidence-Based Medicine Working Group". JAMA. 274 (22): 1800–4. doi:10.1001/jama.1995.03530220066035. PMID 7500513.
{cite journal}
: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์)
แหล่งข้อมูลอื่น
- Concato J (July 2004). "Observational versus experimental studies: what's the research for a hierarchy?". NeuroRx. 1 (3): 341–7. doi:10.1602/neurorx.1.3.341. PMC 534936. PMID 15717036.
- เว็บไซต์
- School of Health and Related Research, University of Sheffield, "Hierarchy of evidence". http://www.shef.ac.uk/scharr/ir/units/systrev/hierarchy.htm เก็บถาวร กุมภาพันธ์ 11, 2009 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Accessed 2008-03-31.
- The American Society for Experimental NeuroTherapeutics, Inc, "Observational Versus Experimental Studies: What’s the Evidence for a Hierarchy?"