สงครามโอนิง

สงครามโอนิง

ภาพวาดสงครามโดยอูตางาวะ โยชิโตระ คริสต์ศตวรรษที่ 19
วันที่ค.ศ. 1467–1477
สถานที่
ทั่วประเทศ บริเวณที่เข้มข้นที่สุดอยู่ที่เกียวโตและจังหวัดยามาชิโระ
ผล
คู่สงคราม

ค่ายตะวันออก:[1]

  • ตระกูลโฮโซกาวะ
  • ตระกูลฮาตาเกยามะ (ฝ่ายสนับสนุนมาซานางะ)
  • ตระกูลชิบะ (ฝ่ายสนับสนุนโยชิโตชิ)
  • อื่น ๆ

ค่ายตะวันตก:[1]

  • ตระกูลยามานะ
  • ตระกูลโออูจิ
  • ตระกูลฮาตาเกยามะ (ฝ่ายสนับสนุนโยชินาริ)
  • ตระกูลชิบะ (ฝ่ายสนับสนุนโยชิกาโดะ)
  • อื่น ๆ
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ
  • โฮโซกาวะ คัตสึโมโตะ
  • ฮาตาเกยามะ มาซานางะ
  • อาชิกางะ โยชิมิ (ค.ศ. 1467–1469)
  • ชิบะ โยชิโตชิ[1]
  • อื่น ๆ
  • ยามานะ โซเซ็น
  • ฮิโนะ โทมิโกะ
  • โออูจิ มาซาฮิโระ
  • ฮาตาเกยามะ โยชินาริ
  • อาชิกางะ โยชิมิ (ค.ศ. 1469–1473)
  • ชิบะ โยชิกาโดะ[1]
  • อื่น ๆ
  • กำลัง
    ป. 160,000 นาย[2] ป. 116,000 นาย[2]

    สงครามโอนิง (ญี่ปุ่น: 応仁の乱โรมาจิŌnin no Ran) ยังเป็นที่รู้จักกันในนาม กลียุคแห่งโอนิง[3] และ สงครามโอนิง-บุมเม[4] เป็นสงครามกลางเมืองช่วง ค.ศ. 1467 ถึง 1477 ในยุคมูโรมาจิของประเทศญี่ปุ่น คำว่าโอนิง สื่อถึงปีศักราชญี่ปุ่นที่เกิดสงครามนี้ขึ้น สงครามสิ้นสุดลงในศักราชบุมเม ข้อพิพาทระหว่างโฮโซกาวะ คัตสึโมโตะกับยามานะ โซเซ็นบานปลายไปเป็นสงครามกลางเมืองระดับประเทศในรัฐบาลโชกุนอาชิกางะกับไดเมียวจำนวนมากในหลายภูมิภาค

    ภูมิหลัง

    ในตอนเริ่มต้น ข้อพิพาทโอนิง เป็นการโต้เถียงต่อผู้สืบตำแหน่งเป็นโชกุน ต่อจากอาชิกางะ โยชิมาซะ ใน ค.ศ. 1464 โยชิมาซะไม่มีผู้สืบสกุล จึงเกลี้ยกล่อมให้อาชิกางะ โยชิมิ น้องชายของเขาสึกจากการเป็นพระ แล้วให้เขาสืบสกุล ต่อมาใน ค.ศ. 1465 การที่โยชิมาซะให้กำเนิดลูกชายโดยไม่คาดคิดทำให้แผนการเหล่านี้เป็นปัญหา อาชิกางะ โยชิฮิซะ ในตอนนั้นยังเป็นเด็กทารก ได้สร้างความไม่ลงรอยกันระหว่างโชกุนโยชิมิและโฮโซกาวะต่อฮิโนะ โทมิโกะ ภรรยาของโยชิมาซะกับแม่ของโยชิฮิซะ และยามานะ[5]: 220 [6]

    โฮโซกาวะทำงานใกล้ชิดกับอาชิกางะ โยชิมิ พี่/น้องชายโชกุนเสมอ และสนับสนุนข้ออ้างในการเป็นโชกุนของเขา ยามานะใช้โอกาสนี้ต่อต้านโฮโซกาวะมากกว่าเดิม โดยการสนับสนุนลูกของตนเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งโชกุน จนทำให้เกิดสงครามขึ้นที่เกียวโต ฝ่ายอาชิกางะพยายามหลีกเลี่ยงการปะทุของสงคราม แต่สถานการณ์เริ่มนำไปสู่สงครามที่ออกแบบให้ผู้นำจากกลุ่มที่ชนะสงครามเป็นโชกุนคนต่อไป ใน ค.ศ. 1467 ตระกูลนักรบต่างแตกแยกกันจนปัญหานี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นในความดิ้นรนต่อความเป็นใหญ่ทางทหาร ท้ายที่สุด ก็ยังไม่มีผู้ชนะอย่างเด็ดขาด และกองทัพหลายกลุ่มก็ต่อสู้กันเองจนหมดแรง[7]

    ลำดับเหตุการณ์

    ลำดับเหตุการณ์นี้ใช้ปีคริสต์ศักราช

    ตอนต้น[5]: 218 

    เกิดสงคราม[5]: 218 

    • 1467 การปะทุของสงครามโอนิง ยามานะถูกประกาศเป็นกบฏ ในเดือนพฤศจิกายน โชโกกุ-จิถูกทำลาย
    • 1468 โยชิมิเข้าร่วมกับฝ่ายยามานะ
    • 1469 โยชิมาซะตั้งโยชิฮิซะเป็นผู้สืบทอด
    • 1471 อิกโก-อิกกิ ลัทธิศาสนาพุทธ ได้กำลงในภาคเหนือ อาซากูระ โทชิกาเงะกลายเป็นขุนวัง (ชูโงะ) แห่งเอจิเซ็ง[5]: 247–250 
    • 1473 ยามานะและโฮโกาวะเสียชีวิต โยชิมาซะเกษษียณ
    • 1477 ตระกูลโออูจิออาจากเกียวโต สงครามโอนิงสิ้นสุดลง

    ตอนท้าย[5]: 218 

    • 1485 การลุกฮือของชาวไร่ที่ยามาชิโระ
    • 1489 โยชิฮิซะเสียชีวิต
    • 1490 โยชิมาซะเสียชีวิต อาชิกางะ โยชิตาเนะกลายเป็น โชกุน
    • 1492 โฮโจ โซอุงกลายเป็นปรมจารย์แห่งอิซุ
    • 1493 โยชิตาเนะสละอำนาจ
    • 1494 โฮโซกาวะ มาซาโมโตะกลายเป็นคันเรแห่งเกียวโต
    • 1495 โซอุงยึดเมืองโอดาวาระ
    • 1496 ฮิโนะ โทมิโกะเสียชีวิต
    • 1508 โออูจิฟื้นฟูโยชิตาเนะ.
    • 1545 โฮโจ อูจิยาซุพ่ายแพ้ต่อกองทัพตระกูลอูเอซูงิที่คาวาโงเอะ
    • 1551 ตระกูลโมริพ่ายแพ้ต่อตระกูลโออูจิที่นำโดยซูเอะ ฮารูกาตะในยุทธการที่มิยาจิมะ
    • 1554 ตระกูลโมริสืบต่ออำนาจและดินแดนจากโออูจิ
    • 1555 อูเอซูงิ เค็นชินกับทาเกดะ ชิงเง็งสู้รบที่คาวานากาจิมะ
    • 1560 โอดะ โนบูนางะชนะที่โอเกฮาซานะ

    อ้างอิง

    1. 1.0 1.1 1.2 1.3 Berry (1997), p. 14.
    2. 2.0 2.1 Berry (1997), p. 27.
    3. Berry (1997), p. 11.
    4. Berry (1997), p. xvii.
    5. 5.0 5.1 5.2 5.3 5.4 Sansom, George (1961). A History of Japan, 1334–1615. Stanford University Press. p. 217. ISBN 0804705259.
    6. Ackroyd, Joyce. (1982) Lessons from History: The Tokushi Yoron, p. 331.
    7. Varley, H. Paul. (1973). Japanese Culture: A Short History, p. 84.

    งานที่อ้างอิง