หนูหริ่ง

หนูหริ่ง
ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: ไมโอซีนยุคสุดท้าย–ปัจจุบัน
หนูหริ่งบ้าน (M. musculus)
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร: Animalia
ไฟลัม: Chordata
ชั้น: Mammalia
อันดับ: Rodentia
วงศ์: Muridae
วงศ์ย่อย: Murinae
สกุล: Mus
Linnaeus, 1758
ชนิด[1]
ดูในเนื้อหา

ระวังสับสนกับสัตว์กินเนื้อขนาดใหญ่กว่า: หมูหริ่ง

บุคคลดูที่: สมบัติ บุญงามอนงค์

หนูหริ่ง เป็นสกุลของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กสกุลหนึ่ง ในอันดับสัตว์ฟันแทะ (Rodentia) ในวงศ์ Murinae ในวงศ์ใหญ่ Muridae ใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Mus

หนูหริ่งเป็นหนูที่มีขนาดเล็ก มีรูปร่างทั่วไปคล้ายกับหนูในสกุล Rattus แต่ก็ยังมีขนาดเล็กกว่า แม้แต่หนูจี๊ด (R. exulans) ซึ่งเป็นหนูที่มีขนาดเล็กที่สุดในสกุล หนูหริ่งก็ยังเล็กกว่า[2] ตัวเมียเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุได้ 1–1.5 เดือน ขณะที่ตัวผู้ 1–2 เดือน[3]

หนูหริ่งเป็นหนูอีกจำพวกหนึ่งที่สามารถพบได้ทั่วไปทั้งในบ้านเรือนและในพื้นที่เกษตรกรรมด้วย ถือเป็นหนูนา ที่เป็นศัตรูพืชที่สำคัญอีกจำพวกหนึ่งรวมกับหนูในสกุลอื่น[4]

หนูหริ่งชนิดที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี คือ หนูหริ่งบ้าน (M. musculus) ซึ่งเป็นหนูอีกชนิดหนึ่งที่พบได้ทั่วไปในบ้านเรือน ซึ่งเป็นชนิดที่นิยมนำมาเป็นสัตว์ทดลองในทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ และได้มีการพัฒนาสายพันธุ์จนกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงเพื่อความเพลิดเพลิน ในแบบที่เป็นหนูเผือกทั้งตัว หรือมีสีสันที่หลากหลายในตัวเดียว เรียกว่า "หนูถีบจักร" หรือ "หนูขาว" โดยเริ่มครั้งแรกมาจากพระราชวังในจีนและญี่ปุ่น[5] นอกจากนี้แล้ว หนูมาซิโดเนีย (M. macedonicus) ที่แพร่กระจายพันธุ์ในภูมิภาคเมเตอร์เรเนียนและประเทศในแถบตะวันออกกลางที่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ยังเป็นสัตว์รังควานที่รบกวนมนุษย์มานานแล้วถึง 15,000 ปี ซึ่งเป็นยุคก่อนประวัติศาสตร์ เป็นยุคก่อนที่มนุษย์จะรู้จักการเพาะปลูกเสียอีก โดยเข้ามาหาอาหารถึงในชุมชนมนุษย์ โดยมีหลักฐานเป็นฟอสซิลฟันของหนูชนิดนี้นับพันตัว[6]

ปัจจุบันได้มีการอนุกรมวิธานหนูหริ่งไว้ประมาณ 38 ชนิด ในประเทศไทยพบทั้งหมด 6 ชนิด นอกจากหนูหริ่งบ้านแล้ว ยังมี หนูหริ่งใหญ่ (M. cookii), หนูหริ่งนาหางสั้น (M. cervicolor), หนูหริ่งนาหางยาว (M. caroli), หนูหริ่งป่าใหญ่ขนเสี้ยน (M. shotridgei) และหนูหริ่งป่าเล็กขนเสี้ยน (M. pahari) [7]

การจำแนก

  • Mus baoulei (Vermeiren & Verheyen, 1980)
  • Mus booduga (Gray, 1837)
  • Mus bufo (Thomas, 1906)
  • Mus callewaerti (Thomas, 1925)
  • Mus caroli Bonhote, 1902
  • Mus cervicolor Hodgson, 1845
  • Mus cookii Ryley, 1914
  • Mus crociduroides (Robinson & Kloss, 1916)
  • Mus famulus Bonhote, 1898
  • Mus fernandoni (Phillips, 1932)
  • Mus goundae Petter & Genest, 1970
  • Mus haussa (Thomas & Hinton, 1920)
  • Mus indutus (Thomas, 1910)
  • Mus kasaicus (Cabrera, 1924)
  • Mus macedonicus Petrov & Ruzic, 1983
  • Mus mahomet Rhoads, 1896
  • Mus mattheyi Petter, 1969
  • Mus mayori (Thomas, 1915)
  • Mus minutoides Smith, 1834
  • Mus musculoides Temminck, 1853
  • Mus musculus Linnaeus, 1758
  • Mus neavei (Thomas, 1910)
  • Mus orangiae (Roberts, 1926)
  • Mus oubanguii Petter & Genest, 1970
  • Mus pahari Thomas, 1916
  • Mus phillipsi Wroughton, 1912
  • Mus platythrix Bennett, 1832
  • Mus saxicola Elliot, 1839
  • Mus setulosus Peters, 1876
  • Mus setzeri Petter, 1978
  • Mus shortridgei (Thomas, 1914)
  • Mus sorella (Thomas, 1909)
  • Mus spicilegus Petenyi, 1882
  • Mus spretus Lataste, 1883
  • Mus tenellus (Thomas, 1903)
  • Mus terricolor Blyth, 1851
  • Mus triton (Thomas, 1909)
  • Mus vulcani (Robinson & Kloss, 1919) [1]

อ้างอิง

  1. 1.0 1.1 "Mus". ระบบข้อมูลการจำแนกพันธุ์แบบบูรณาการ.
  2. ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับหนู
  3. "เรื่องของหนู". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-06-12. สืบค้นเมื่อ 2013-01-12.
  4. หนู[ลิงก์เสีย]
  5. หนูไมซ์
  6. หน้า 7 โลกาภิวัฒน์ GLOBALIZATION, หนูรังควานชุมชนมนุษย์ มาตั้งแต่ 15,000 ปีก่อน. ไทยรัฐปีที่ 68 ฉบับที่ 21642: วันพุธที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2560 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 5 ปีระกา
  7. หน้า 158-183, สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีน (กรุงเทพมหานคร, พ.ศ. 2543) โดย กองทุนสัตว์ป่าโลก ISBN 974-87081-5-2

แหล่งข้อมูลอื่น

ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Mus ที่วิกิสปีชีส์