ไครซิสคอร์: ไฟนอลแฟนตาซี VII
| ไครซิสคอร์:ไฟนอลแฟนตาซี VII | |
|---|---|
 | |
| ผู้พัฒนา | สแควร์เอนิกซ์ |
| ผู้จัดจำหน่าย | สแควร์เอนิกซ์ |
| ออกแบบ | โยชิโนริ คิตาเสะ (executive producer) ฮาจิเมะ ทาบาตะ (director) ทาเคฮารุ อิชิโมโตะ (composer) เท็ตสึยะ โนมูระ (character designer) |
| แต่งเพลง |
|
| ชุด | ไฟนอลแฟนตาซี |
| เครื่องเล่น | เพลย์สเตชัน พอร์เทเบิล
รียูเนี่ยน นินเท็นโด สวิตช์เพลย์สเตชัน 4 เพลย์สเตชัน 5 วินโดวส์ เอกซ์บอกซ์วัน เอกซ์บอกซ์ซีรีส์เอกซ์และซีรีส์เอส |
| วางจำหน่าย | JP 13 กันยายน 2550 US 25 มีนาคม 2551 รียูเนี่ยน WW 13 ธันวาคม 2565 |
| แนว | แอคชันอาร์พีจี |
| รูปแบบ | ผู้เล่นเดี่ยว |
ไครซิสคอร์:ไฟนอลแฟนตาซี VII หรือในชื่อย่อว่า CC FFVII (ญี่ปุ่น: クライシス コア -ファイナルファンタジーVII-; โรมาจิ: CRISIS CORE -FINAL FANTASY VII-) เป็นเกมแนวแอคชันอาร์พีจี สำหรับเครื่องเพลย์สเตชัน พอร์เทเบิล พัฒนาโดย สแควร์เอนิกซ์ ออกวางจำหน่ายครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2550 เนื้อหาในเกมเป็นช่วงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าเรื่องราวในไฟนอลแฟนตาซี VII
ตัวเกมได้รับการรีมาสเตอร์ในชื่อ ไครซิสคอร์:ไฟนอลแฟนตาซี VII รียูเนียน โดยวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2565
ระบบของเกม
ไครซิสคอร์เป็นเกมแนวแอกชัน-อาร์พีจี โดยใช้ปุ่ม Analog ในการควมคุมการเคลื่อนไหวของตัวละคร ส่วนการเลือกคำสั่งในฉากต่อสู้ จะใช้ปุ่ม L และ R เมื่อเลือกคำสั่งที่ต้องการแล้วก็ต้องกด ปุ่ม X เพื่อใช้คำสั่งนั้น ระบบความสามารถของตัวละครจะได้มาจาก Materia เหมือนของภาค VII แต่ Materia ใน Crisis Core นอกจากจะทำให้ได้ความสามารถหรือเวทมนตร์แล้ว ยังเพิ่มค่าพลังของตัวละครของเราอีกด้วย และเรายังสามารถที่จะผสม Materia เพื่อให้ได้ Materia ใหม่ ที่มีความสามารถที่ดีขึ้น และยังเพิ่มค่าพลังของตัวละครได้มากขึ้นไปจากเดิมอีก
- Limit Break
เป็นการหมุนล้อความทรงจำเพื่อให้ได้มาซึ่งท่าพิเศษ ใช้ควบคู่กับ DMW
- Digital Memory Wheel (DMW)
- เป็นการหมุนล้อความทรงจำเพื่อให้ได้มาซึ่งท่าพิเศษ ที่มีตัวเลข (1-7) และหน้าตัวละครที่ผูกพันกับแซ็ค (มีหกคนหลักๆ) หมุนขึ้นมาสามช่อง DMW จะหมุนโดยอัตโนมัติเมื่อเข้าฉากสู้ เมื่อหมุนได้ตัวเลขต่าง ๆ จะให้ผลแตกต่างกัน
- Limit verge
การตัดเข้าหน้าจอหมุนสล็อตขณะสู้ เกิดขึ้นเมื่อกงล้อตัวละครด้านซ้ายขวาหมุนขึ้นมาเป็นหน้าเดียวกัน (limit verge) สล็อตกลางจะทำการหมุนต่อ หากหน้าตัวละครตรงกันหมดจะเกิดผลลิมิตเบรกของตัวละครนั้นๆขึ้น (limit break) โอกาสเกิดลิมิตเบรกจะเพิ่มหากมีภาพความทรงจำหรือคัตซีนความทรงจำตัดเข้ามาระหว่างหมุนกงล้อ รวมทั้งเกจ DMW (แถบสีที่มีคลื่นวิ่ง) เริ่มต้นจะมีเพียงหน้าของแองจีลและเซฟิรอธเท่านั้น ตัวละครอื่น ๆ จะเพิ่มมาทีหลังตามเนื้อเรื่องหรือการหาไอเท็ม บางทีการหมุนสล็อตจะเปลี่ยนจากโหมดตัวละครไปยังโหมดสัตว์อสูร/เจเนซิส หรือโชโคโบะ และให้ผของ DMW นั้น ๆ
หลังหมุนหน้าตัวละครแล้วจะทำการหมุนตัวเลขต่อ หากหมุนได้เลข 1-6 ซ้ำกันสองตัว มาทีเรียที่ติดอยู่ในตำแหน่งนั้นจะเพิ่มเลเวลหนึ่งระดับ เช่นหากหมุนได้ 212 มาทีเรียที่ติดตั้งในสล็อตช่องที่สองจะเพิ่มเลเวลขึ้นหนึ่งระดับ หากหมุนได้เลขเดียวกันหมดทั้งสามตัว (เช่น 222) มาทีเรียในช่องนั้นจะเพิ่มเลเวลขึ้นสองระดับ หากหมุนได้ 777 เลเวลแซ็คจะเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ
เนื้อเรื่อง
เรื่องราวกล่าวถึง แซ็ค โซลเยอร์ที่ใฝ่ฝันที่จะอยู่ในระดับเฟิร์สคลาส และความขัดแย้งระหว่างมิตรภาพของสามสุดยอดโซลเยอร์ระดับเฟิร์สคลาสคือ เซฟิรอธ เจเนซิส และ แองจีล
เริ่มจาก แซ็ค โซลเยอร์ระดับเซคันด์คลาส ที่พยายามจะขึ้นไปสู่ระดับเฟิร์สคลาส โดยมี แองจีล 1 ใน 3 สุดยอดโซลเยอร์ระดับเฟิร์สคลาสดูแล ระหว่างนั้น แซ็คได้พบกับ แอริธ หญิงสาวในสลัมของเมืองมิดการ์ และทั้งสองก็พบรักกัน แซ็คก็มุ่งมานะเรื่อยมาจนได้ขึ้นสู่ระดับเฟิร์สคลาส และเขาก็เข้ามาอยู่ในวังวนมิตรภาพที่ไม่ลงรอยของเหล่าเฟิร์สคลาสที่มีเซฟิรอธ ผู้เก่งกาจ แองจีล ผู้เข้มแข็ง และเจเนซิส ผู้หายสาบสูญ
ในเวลาต่อมาแซ็คก็ได้รับรู้สาเหตุของความแตกร้าวของมิตรภาพอันแน่นแฟ้นของทั้งสามโซลเยอร์ เจเนซิสหายตัวไปหลังจากพบว่าตนเป็นเพียงมอนสเตอร์ที่เกิดจากการทดลองของบริษัทชินระ ภายหลังเจเนซิสได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับปีกซ้ายสีดำ การปรากฏตัวของเจเนซิส ทำให้เกิดเรื่องราวในภาคไครซิสคอร์ ต่อมาแองจีลก็รู้ว่าตนเองก็เป็นเช่นเดียวกับเจเนซิส แองจีลมีปีกขวาสีขาวสองปีก และได้ถอนตัวจากโซลเยอร์ ภายหลังแองจีลได้บังคับให้แซ็คต่อสู้ ก่อนแองจีลจะตายได้ยกดาบเล่มยักษ์ของตนให้แก่แซ็ค แซ็ครับดาบมาแล้วก้าวเข้าสู่เฟิร์สคลาสอย่างภาคภูมิ แต่ในใจกลับคิดถึงการจากไปของแองจีล ที่เคยเป็นทั้งเพื่อนและหัวหน้า
ระหว่างนั้น แซ็คได้พบกับ คลาวด์ พลทหารฝึกหัดซึ่งได้สนิทกัน คลาวด์และแซ็คได้ไฝ่ฝันที่จะเป็นโซลเยอร์เหมือนอย่างเซฟิรอธ แซ็คปฏิบัติภารกิจไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้นเขาก็ได้โทรศัพท์คุยกับแอริธตลอดมา ทำให้ความรักของทั้งสองเพื่มพูนมากขึ้น ทั้งๆที่แซ็คไม่มีเวลาไปหาแอริธเลยแม้แต่น้อย และพวกเขาก็ได้สัญญารักต่อกันว่า เมื่อไรที่แซ็คกลับมา พวกเขาจะแต่งงานกัน ระหว่างที่แซ็ค คลาวด์ และเซฟิรอธ ไปปฏิบัติภารกิจในหมู่บ้านนีเบิลเฮล์ม เซฟิรอธก็ค้นพบว่าตนเองเกิดมาจากการทดลองที่น่าขยะแขยง ทำให้เขารู้สึกช็อคและเก็บตัว หมกมุ่นอยู่กับการหาข้อมูลเรื่อง"เจโนวา" หลังจากนั้น 7 วัน แซ็คพบว่าเซฟิรอธได้เผาหมู่บ้านและฆ่าชาวบ้านอย่างเลือดเย็น แซ็คจึงตามมาถึงที่โรงงานและพบกับทีฟาในสภาพบาดเจ็บ ทำให้แซ็คนั้นเกิดโทสะ และเข้าไปในห้องเจโนว่า แซ็คกับเซฟิรอธได้ต่อสู้กันอย่างดุเดือด แต่แซ็คกลับเป็นฝ่ายแพ้ ในขณะที่เซฟิรอธเผลอนั้นคลาวด์ได้ชักดาบของแซ็คเสียบเข้ากลางหลังของเซฟิรอธ จากนั้นเขาก็ไปหาทีฟาที่กำลังบาดเจ็บอยู่ แต่ทว่าเซฟิรอธยังไม่ตาย แซ็คในสภาพบาดเจ็บสาหัสมากนั้นก็บอกให้คลาวด์กำจัดเซฟิรอธ คลาวด์จึงหยิบดาบัสเตอร์ซอร์ดของแซ็คเข้าไปสู้แต่กลับพลาดท่า ดาบมาซามูเนะของเซฟิรอธเสียบทะลุหน้าอกของคลาวด์จากนั้นก็ยกร่างของคลาว์ดขึ้น คลาวด์นั้นยังไม่ตายใช้แรงฮึดสุดท้ายดันตัวเข้ามาบนพื้นแล้วเหวี่ยงดาบที่ติดกับอกเหวี่ยงร่างเซฟิรอธ ลงบ่อมาโคแล้วสลบไป พวกเขาได้ถูก ศจ.โฮโจ จับไปทดลองเซลล์เจโนว่า ภายหลังแซ็คสามารถหนีออกมาจากห้องทดลองได้พร้อมกับคลาวด์ที่กำลังหมดสติ
ระหว่างทางที่พวกเขาจะไปเมืองมิดการ์ แซ็คได้สู้กับเจเนซิส ในถ้ำใกล้เมืองมิดการ์ เขาชนะและได้ช่วยเจเนซิส ซึ่งกำลังสลบ ออกมาจากถ้ำที่กำลังถล่ม ที่ปากถ้ำเขาได้พบกับ แองจีล และได้รับจดหมายจากแอริธ ผ่านทางร่างกอปปี้ของแองจีล(ลาซาร์ด) ทั้งหมด 90 กว่าฉบับ ต่อจากนั้น ร่างกอปปี้ก็หมดสภาพและตายจากไป แซ็คได้พาคลาวด์ที่หมดสติเดินทางมาถึงชายเมืองมิดการ์ ที่นั่น แซ็คได้พบกับพลทหารติดอาวุธพันกว่านาย แซ็คนำคลาวด์ไปซ่อน ส่วนตัวเขาก็ออกไปสู่กับทหารพวกนั้น การต่อสู้หนึ่งต่อพันเป็นไปอย่างดุเดือด ไม่ว่าแซ็คจะโดนสักยิงกี่นัด เขาก็ไม่ท้อถอย เพราะคำมั่นสัญญาที่เขาให้กับแอริธ เขาจะต้องรอดชีวิตและกลับไปแต่งงานกับแอริธให้ได้ ท้ายที่สุดเขาก็สังหารทหารไปได้ทั้งหมด และกำลังจะหมดแรง ทันใดนั้นก็มีทหาร 3 คนมายืนหน้าแซ็ค ทหารเหล่านั้นยิงปืนใส่เขา แซ็คที่กำลังหมดแรงได้ถูกยิงและลมลง ทหารพวกนั้นก็ตามมายิงกระหน่ำใส่ร่างของเขาและจากไป
เมื่อคลาวด์ได้สติและคลานออกมาหา แซ็คที่กำลังจะตายก็ยิ้มให้คลาวด์ เขายื่นดาบเล่มยักษ์ของแองจีลให้แก่คลาวด์แล้วบอกว่า "รับนี่ไป 'คลาวด์' ดาบนี่เพื่อนของฉันมอบให้ฉัน และฉันจะมอบให่แก่นาย เพราะนายเป็นเพื่อนของฉัน นายจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป นายมีความฝัน จงใช้มันทำให้ความฝันของนายเป็นจริง โชคดีนะคลาวด์" คลาวด์ รับดาบจาก แซ็ค และตอบกลับว่า "อื้อ ฉันจะมีชีวิตอยู่ในส่วนของนายด้วย" แซ็คยิ้มพร้อมกับลมหายใจครั้งสุดท้าย คลาวด์ร้องไห้พร้อมกับตะโกนสุดเสียงหน้าร่างของเพื่อนรัก คลาวด์ยืนขึ้นหันหลังให้แซ็ค และพูดว่า "ลาก่อนนะ แซ็ค" และลากดาบยักษ์เล่มนั้นแล้วเดินจากไป
แซ็ครู้สึกตัวอีกทีในที่ที่เขาจากไป แต่ที่นั่นไม่มีศพของทหารที่เขาฆ่าอยู่เลย แสงสว่างห้อมล้อมตัวเขา พบท้องฟ้ามีใครคนหนึ่งกำลังบินลงมา ใครคนนั้นคือ แองจีล เขาจับมือแองจีลและลอยขึ้นไป แซ็คยิ้มและพูดออกมาว่า "สิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของฉัน คือการที่ฉันได้มาเจอเธอ 'แอริธ' และตอนนี้ฉันก็ได้เป็นฮีโร่แล้วสินะ" ในขณะที่คลาวด์กำลังเดินลากดาบอยู่นั้นได้มีขนนกสีขาวอันหนึ่งปลิวลงมาพร้อมกับคำพูดที่ลอยมาตามอากาศ "ฝากแอริธด้วยนะ คลาวด์"
ตัวละคร
- แซ็ค แฟร์ (ザックス・フェア ; Zack Fair)
- แองจีล ฮิวลีย์ (アンジール・ヒューレー ; Angeal Hewley)
- เซฟิรอธ (セフィロス ; Sephiroth)
- เจเนซิส แรปโซดอส (ジェネシス・ラプソードス ; Genesis Rhapsodos)
- คลาวด์ สไตรฟ์ (クラウド・ストライフ ; Cloud Strife)
- แอริธ เกนส์เบอรู (エアリス・ゲインズブール ; Aerith Gainsborough)
- ลาซาร์ด (ラザード ; Lazard)
- โฮโจ (宝条 ; Hojo)
- ฮอลแลนเดอร์ (ホランダー ; Hollander)
- เส็ง (ツォン ; Tseng)
- เรโน (レノ ; Reno)
- รู้ด (ルード ; Rude)
- ซิสเน (シスネ ; Cissnei)
- ยุฟฟี่ คิซารางิ (ユフィ・キサラギ ; Yuffie Kisaragi)
- ทีฟา ล็อกฮาร์ท (ティファ・ロックハート ; Tifa Lockhart)
- จิลเลียน ฮิวลีย์ (ジリアン・ヒューレー ; Gillian Hewley)