กองทัพเรือสหรัฐ
กองทัพเรือสหรัฐ | |
---|---|
United States Navy | |
![]() ตรากองทัพเรือ | |
ประจำการ | 13 ตุลาคม 1775[1][2] |
ประเทศ | ![]() |
รูปแบบ | กองทัพเรือ |
บทบาท | การแสดงกำลัง, การตอบสนองเหตุวิกฤต, ปฏิบัติการโดยตรง |
กำลังรบ | กำลังประจำการ 323,197 นาย[3] กำลังสำรอง 108,515 นาย[3] เรือรบพร้อมประจำการ 274 ลำ[3] เรือทั้งหมด 430 ลำ อากาศยานมากกว่า 3,700 ลำ[3] |
ขึ้นกับ | กระทรวงกลาโหมสหรัฐ
|
กองบัญชาการใหญ่ | เพนตากอน อาร์ลิงตันเคาน์ตี, เวอร์จิเนีย, สหรัฐฯ |
คำขวัญ | "Non sibi sed patriae" (ละติน: "ไม่ใช่เพื่อตัวเองแต่เพื่อประเทศชาติ") (ไม่เป็นทางการ)[4] |
สีหน่วย | น้ำเงิน, ทอง [5][6] |
เพลงหน่วย | แองเคอร์สะเวห์ ("Anchors Aweigh") ![]() |
วันสถาปนา | 13 ตุลาคม 1775 |
ยุทธภัณฑ์ | ดูที่หัวข้อ ยุทโธปกรณ์ ด้านล่าง |
ปฏิบัติการสำคัญ | ดูจากรายการดังต่อไปนี้
|
อิสริยาภรณ์ | ![]() อิสริยาภรณ์ประกาศกิตติคุณหน่วยประธานาธิบดี ![]() อิสรยาภรณ์สรรเสริญหน่วยนาวี ![]() อิสรยาภรณ์สรรเสริญหน่วยอันมีคุณความดี |
เว็บไซต์ | www |
ผู้บังคับบัญชา | |
ผู้บัญชาการสูงสุด | ประธานาธิบดี โจ ไบเดน |
รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม | มาร์ก เอสเปอร์ |
อธิบดีกรมทหารเรือ | ฌอน สแต็คลีย์ (รักษาการแทน) |
ผ.บ. ฝ่ายยุทธการทหารเรือ | พล.ร.อ. จอห์น เอ็ม. ริชาร์ดสัน |
รอง ผ.บ. ฝ่ายยุทธการทหารเรือ | พล.ร.อ. วิลเลียม เอฟ. มอแรน |
พันจ่าเอกพิเศษ | พ.จ.อ.(พ.) สตีเวน เอส. จิออร์ดาโน |
เครื่องหมายสังกัด | |
ธง | ![]() |
ธงเรือ | ![]() |
สมอเรือ, เรือคอนสติติวชัน, และตราอินทรี | ![]() |
ธงสามเหลี่ยม | ![]() |
เครื่องหมายอากาศยาน | ![]() |
กองทัพเรือสหรัฐ (อังกฤษ: United States Navy, USN) เป็นกองกำลังทางทะเลในสังกัดกองทัพสหรัฐ และหนึ่งในเจ็ดองค์กรในเครื่องแบบของสหรัฐ กองทัพเรือสหรัฐเป็นกองทัพเรือที่ใหญ่ และมีความสามารถมากที่สุดในโลก โดยมีขนาดกองเรือตามน้ำหนักที่มากที่สุด กองทัพเรือสหรัฐมีกองเรือบรรทุกอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีเรือบรรทุกอากาศยาน 10 ลำในสถานะประจำการ อีก 2 ลำในสถานะกองเรือสำรอง และกำลังก่อสร้างเรือบรรทุกอากาศยานใหม่อีก 3 ลำ กองทัพเรือสหรัฐมีกำลัง 323,792 นายในสถานะประจำการ และอีก 108,515 นายในกองทัพเรือสำรอง มีเรือรบพร้อมประจำการ 274 ลำ และมีอากาศยานที่ใช้การได้มากกว่า 3,700 ลำ ตามข้อมูลในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2016[3]
กองทัพเรือสหรัฐมีต้นกำเนิดย้อนไปยังกองทัพเรือภาคพื้นทวีปซึ่งถูกก่อตั้งขึ้นระหว่างสงครามปฏิวัติอเมริกา ก่อนที่จะถูกก่อตั้งขึ้นใหม่เป็นกองทัพเรือสหรัฐหลังจากนั้นไม่นาน กองทัพเรือสหรัฐมีบทบาทสำคัญในสงครามกลางเมืองอเมริกัน โดยทำการปิดล้อมทางทะเลต่อฝ่ายสมาพันธรัฐ และเข้าควบคุมทางแม่น้ำของสมาพันธรัฐ ทั้งยังมีบทบาทหลักในการเอาชนะจักรวรรดิญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่สอง ในคริสต์ศตวรรษที่ 21 กองทัพเรือสหรัฐยังคงวางกำลังอยู่ทั่วโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก, ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และมหาสมุทรอินเดีย กองทัพเรือสหรัฐเป็นกองทัพเรือทะเลน้ำลึก ที่มีความสามารถในการแสดงกำลังตามแนวชายฝั่งทั่วโลก และตอบสนองต่อสถานการณ์วิกฤตระดับภูมิภาคได้อย่างรวดเร็ว ทำให้กองทัพเรือสหรัฐเป็นตัวแทนผู้กระทำของสหรัฐฯ ทางการทูตและการทหารอยู่บ่อยครั้ง
กองทัพเรือสหรัฐอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของกรมทหารเรือ โดยมีพลเรือนเป็นผู้บริหารในตำแหน่งอธิบดีกรมทหารเรือ กรมทหารเรืออยู่ใต้สังกัดของกระทรวงกลาโหม บริหารโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการฝ่ายยุทธการทหารเรือ (CNO) เป็นนายพลเรือระดับสี่ดาวและนายทหารเรืออาวุโสของกรมทหารเรือ CNO อาจจะไม่ใช่นายทหารเรือที่อาวุโสที่สุดในกองทัพสหรัฐถ้าประธานหรือรองประธานคณะเสนาธิการร่วม ซึ่งตามกฎหมายแล้วมียศสูงกว่า CNO เป็นนายทหารจากกองทัพเรือ
ยุทโธปกรณ์
ตามข้อมูลใน ค.ศ. 2013 กองทัพเรือสหรัฐมียุทโธปกรณ์ที่อยู่ในสถานะพร้อมปฏิบัติงานได้แก่ เรือ 280 ลำ, อากาศยานมากกว่า 3,650 ลำ, พาหนะที่ไม่ได้ใช้เพื่อการสู้รบ 50,000 คัน กองทัพสหรัฐเป็นเจ้าของอาคาร 75,200 อาคารบนพื้นที่ 13,000 ตร.กม.
เรือรบ
ชื่อของเรือในกองเรือประจำการของกองทัพเรือสหรัฐนั้นนำหน้าด้วยตัวอักษร USS แทนคำว่า "เรือรบสหรัฐ" (United States Ship)[7] เรือที่ไม่ได้อยู่ในกองเรือประจำการและมีลูกเรือเป็นพลเรือนมีชื่อนำหน้าด้วยตัวอักษร USNS แทนคำว่า "เรือเดินสมุทรสหรัฐ" (United States Naval Ship) ชื่อของเรือนั้นถูกเลือกอย่างเป็นทางการโดยอธิบดีกรมทหารเรือ โดยมักจะตั้งชื่อเพื่อให้เกียรติบุคคลหรือสถานที่สำคัญ[8] นอกจากนี้เรือแต่ลำยังได้รับสัญลักษณ์จำแนกประเภทตัวเรือเพื่อระบุประเภทของเรือและหมายเลข (เช่น CVN หรือ DDG) นอกจากเรือรบประจำการแล้ว กองทัพเรือสหรัฐยังมีกองเรือสำรองที่ประกอบไปด้วยเรือที่ไม่พร้อมใช้งานที่ยังมีการบำรุงรักษาไว้เพื่อจะได้สามารถนำกลับมาใช้งานได้ในยามจำเป็น
กองทัพเรือสหรัฐเป็นกองทัพแรกที่ทำการติดตั้งเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์บนพาหนะทางทะเล[9] ทุกวันนี้เรือบรรทุกอากาศยานและเรือดำน้ำทุกลำของสหรัฐที่ประจำการอยู่ล้วนใช้พลังงานนิวเคลียร์ ในกรณีของเรือบรรทุกเครื่องบินชั้นนิมิตซ์ เครื่องปฏิกรณ์บนเรือสองเครื่องสามารถให้พลังงานเรือในการขับเคลื่อนอย่างไม่จำกัดและสามารถให้พลังงานไฟฟ้าให้กับเมืองที่มีประชากรอยู่อาศัย 100,000 คน[10]
อ้างอิง
- ↑ 3.0 3.1 3.2 3.3 3.4 "Status of the Navy". U.S. Navy. 6 February 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-04-27. สืบค้นเมื่อ 6 February 2016.
- ↑ US Navy web staff. "The U.S. Navy". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-05-25. สืบค้นเมื่อ 2017-05-07.
- ↑ Carlos Cabo. "Pantone colors. Convert Pantone colors to RAL, CMYK, RGB, Hex, HSL, HSB, JSON".
- ↑ "Ship Naming in the United States Navy". Naval History & Heritage Command. United States Navy. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-06-17. สืบค้นเมื่อ 20 June 2015.
- ↑ O'Rourke, Ronald. (2013). Navy Ship Names: Background For Congress. Washington, D.C.: Congressional Research Service.
- ↑ "CVN-65 Enterprise". GlobalSecurity. สืบค้นเมื่อ 7 March 2007.
- ↑ "CVN-68 Nimitz Class". GlobalSecurity. สืบค้นเมื่อ 8 April 2006.