การท่องเที่ยวในประเทศกรีซ
การท่องเที่ยวในประเทศกรีซเป็นองค์ประกอบสำคัญของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ และเป็นหนึ่งในภาคส่วนที่สำคัญที่สุดของประเทศ ประเทศกรีซเป็นจุดหมายปลายทางสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในทวีปยุโรปตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1970 เนื่องจากมีวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันยาวนาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นเป็นส่วนใหญ่จากแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก 18 แห่ง ซึ่งมากที่สุดในยุโรปและทั่วโลก[1] รวมทั้งชายฝั่งทะเลที่ยาว, เกาะ และชายหาดจำนวนมาก[2]
ประเทศกรีซดึงดูดนักท่องเที่ยวมากถึง 33 ล้านคนในปี ค.ศ. 2018 โดยเพิ่มขึ้นจาก 24 ล้านคนในปี ค.ศ. 2015[4][5][6][7] ทำให้กรีซเป็นหนึ่งในประเทศที่มีผู้เยี่ยมชมมากที่สุดในทวีปยุโรปและของโลก ตลอดจนมีส่วนสนับสนุนประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ[8] เมื่องหลวงของประเทศอย่างเอเธนส์ เช่นเดียวกับซันโดรีนี, ไมโคนอส, โรดส์, คอร์ฟู, ครีต และชาลกิดิกี ต่างก็เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ
ประเทศกรีซยังส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงศาสนาและการแสวงบุญไปยังภูมิภาคที่มีประวัติศาสตร์ทางศาสนาที่สำคัญ เช่น อารามของชาวคริสต์ในเมเทโอราและเขาแอทอส โดยร่วมมือกับประเทศอื่น ๆ[9]
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- ↑ "Greece Properties inscribed on the World Heritage List (17)". Unesco. Unesco.
- ↑ Greece by Paul Hellander, Kate Armstrong, Michael Clark, Des Hannigan
- ↑ "13 Places Where You Can See the Bluest Water in the World". Travel+Leisure. สืบค้นเมื่อ 16 March 2017.
- ↑ "Tourism Ministry statistics impress". สืบค้นเมื่อ 30 January 2019.
- ↑ "Extra 2 million tourists to visit Greece". Avgi. สืบค้นเมื่อ 7 April 2018.
- ↑ "Historic records for tourism (Ιστορικό ρεκόρ για τον τουρισμό)". topontiki.gr. สืบค้นเมื่อ 6 March 2017.
- ↑ "UNWTO". Tweeter. สืบค้นเมื่อ 18 March 2019.
- ↑ "Tourism involves everyone". สืบค้นเมื่อ 18 March 2019.
- ↑ "Greece Focuses on Religious Tourism, Explores Cooperation with Russia". gtp.gr. 2016-05-20. สืบค้นเมื่อ 6 March 2017.
แหล่งข้อมูลอื่น
- Official Greece tourism site
- Greece travel and tourism ที่เว็บไซต์ Curlie
- แผนการเดินทางของกรีซ