คาร์ล เดอนิทซ์

จอมพลเรือ
คาร์ล เดอนิทซ์
ประธานาธิบดีเยอรมนี
ดำรงตำแหน่ง
30 เมษายน 1945 – 23 พฤษภาคม 1945
หัวหน้ารัฐบาลโยเซ็ฟ เกิบเบิลส์
ก่อนหน้าอดอล์ฟ ฮิตเลอร์
(ฟือเรอร์แห่งเยอรมนี)
ถัดไปเทโอดอร์ ฮ็อยส์
(ประธานาธิบดีแห่งเยอรมนีตะวันตก)
วิลเฮ็ล์ม พีค
(ประธานาธิบดีแห่งเยอรมนีตะวันออก)
ผู้บัญชาการใหญ่กองทัพเรือ
ดำรงตำแหน่ง
30 มกราคม 1943 – 1 พฤษภาคม 1945
ฟือเรอร์อดอล์ฟ ฮิตเลอร์
ก่อนหน้าเอริช เรเดอร์
ถัดไปฮันส์-เกออร์ค ฟ็อน ฟรีเดอบวร์ค
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด16 กันยายน ค.ศ. 1891(1891-09-16)
เบอร์ลิน, จักรวรรดิเยอรมัน
เสียชีวิต24 ธันวาคม ค.ศ. 1980(1980-12-24) (89 ปี)
เอามือเลอ, รัฐชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์, เยอรมนีตะวันตก
เชื้อชาติเยอรมัน
ศาสนาลูเทอแรน
พรรคการเมืองพรรคนาซี (สมาชิกกิตติมศักดิ์, 1944–1945)[1][Note 1]
ลายมือชื่อ
ชื่อเล่นจอมสิงห์ (The Lion)
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง
รับใช้ เยอรมนี (1910–18)
 เยอรมนี (1920–33)
 ไรช์เยอรมัน (1933–45)
สังกัดกองทัพเรือ
ประจำการ1910–1918
1920–1945
ยศ จอมพลเรือ (Großadmiral)
ผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
สงครามโลกครั้งที่สอง

คาร์ล เดอนิทซ์ (เยอรมัน: Karl Dönitz) เป็นจอมพลเรือชาวเยอรมันผู้มีบทบาทสำคัญในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการใหญ่กองทัพเรือเยอรมันตั้งแต่ปีค.ศ. 1943 จวบจนเดอนิทซ์สืบทอดตำแหน่งประมุขแห่งรัฐเยอรมนีหลังจากฮิตเลอร์ฆ่าตัวตายในสัปดาห์สุดท้ายของสงคราม

เขาเริ่มอาชีพในกองทัพเรือจักรวรรดิเยอรมันก่อนสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ใน ค.ศ. 1918 ขณะที่เขาบังคับการเรือดำน้ำ UB-68 เรือถูกกองทัพบริติชจมและเดอนิทซ์ถูกจับเป็นเชลย ระหว่างอยู่ในค่ายเชลยศึก เขาสรุปสิ่งที่ต่อมาเขาเรียกว่ารูเดิลทัคทิค ("ยุทธวิธีฝูง" หรือเรียกทั่วไปว่า "ฝูงหมาป่า") เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองอุบัติ เขาเป็นนายทหารเรือดำน้ำอาวุโสในครีคส์มารีเนอ ต่อมาในเดือนมกราคม ค.ศ. 1943 เขาได้ยศจอมพลเรือ และสืบตำแหน่งผู้บัญชาการใหญ่กองทัพเรือจากจอมพลเรือ เอริช เรเดอร์

หลังการอสัญกรรมของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ในวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 1945 พินัยกรรมของฮิตเลอร์ได้แต่งตั้งเขาเป็นผู้สืบทอดประมุขแห่งรัฐจากฮิตเลอร์ ทั้งตำแหน่งประธานาธิบดีเยอรมนีและผู้บัญชาการทหารสูงสุด วันที่ 7 พฤษภาคม ค.ศ. 1945 เขาสั่งให้อัลเฟรท โยเดิล หัวหน้าเสนาธิการของกองบัญชาการทหารสูงสุด ลงนามตราสารยอมจำนนในแร็งส์ ประเทศฝรั่งเศส เดอนิทซ์ยังเป็นหัวหน้ารัฐบาลเฟล็นส์บวร์คจนถูกฝ่ายสัมพันธมิตรยุบเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ที่การพิจารณาคดีเนือร์นแบร์ค เขาถูกพิพากษาลงโทษฐานอาชญากรรมสงครามและตัดสินลงโทษจำคุกสิบปี หลังการปล่อยตัว เขาใช้ชีวิตเงียบ ๆ ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใกล้ฮัมบวร์คจนเสียชีวิตใน ค.ศ. 1980

เกียรติยศ

อิสริยาภรณ์เยอรมัน

  • กางเขนเหล็ก (1914) ชั้นสอง และชั้นหนึ่ง
  • กางเขนฟรีดริช ชั้นหนึ่ง
  • เหรียญซูเดเทินลันท์
  • เครื่องหมายสงครามเรือดำน้ำ (1939) ประดับเพชร
  • เข็มกลัดกางเขนเหล็ก (1939) ชั้นสอง และชั้นหนึ่ง
  • กางเขนอัศวินแห่งกางเขนเหล็ก
    • กางเขนอัศวิน เมื่อวันที่ 21 เมษายน 1940
    • ติดใบโอ็ค เมื่อวันที่ 6 เมษายน 1943
  • เข็มตราพรรคทองคำ เมื่อปี 1943

ยศทหาร

  • เมษายน 1911 : นักเรียนทำการนายเรือ (Fähnrich zur See)
  • กันยายน 1913 : เรือตรี (Leutnant zur See)
  • มีนาคม 1916 : เรือโท (Oberleutnant zur See)
  • มกราคม 1921 : เรือเอก (Kapitänleutnant)
  • พฤศจิกายน 1928 : นาวาตรี (Korvettenkapitän)
  • ตุลาคม 1933 : นาวาโท (Fregattenkapitän)
  • ตุลาคม 1935 : นาวาเอก (Kapitän zur See)
  • มกราคม 1939 : นาวาเอกพิเศษ (Kommodore)
  • ตุลาคม 1939 : พลเรือตรี (Konteradmiral)
  • กันยายน 1940 : พลเรือโท (Vizeadmiral)
  • มีนาคม 1942 : พลเรือเอก (Admiral)
  • แต่งตั้งข้ามยศนี้ : พลเรือเอกอาวุโส (Generaladmiral)
  • มกราคม 1943 : จอมพลเรือ (Großadmiral)

อ้างอิง

  1. Grier 2007, p. 256, Footnote 8, Chapter 10.
  1. "On 30 January 1944, Dönitz received from the Führer, as a decoration, the Golden Party Badge; Dönitz would later assume that he "thereby became an honorary member of the Party." The Avalon Project at Yale Law School
ก่อนหน้า คาร์ล เดอนิทซ์ ถัดไป
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์
ในตำแหน่งฟือเรอร์
ประธานาธิบดีเยอรมนี
(พฤษภาคม 1945)
เทโอดอร์ ฮ็อยส์ (เยอรมนีตะวันตก)
วิลเฮ็ล์ม พีค (เยอรมนีตะวันออก)
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้บัญชาการสูงสุดแห่งแวร์มัคท์
(พฤษภาคม 1945)
ไม่มี (แวร์มัคท์ถูกยุบ)
จอมพลเรือ เอริช เรเดอร์ ผู้บัญชาการใหญ่กองทัพเรือ
(1943-1945)
พลเรือเอกอาวุโส
ฮันส์-เกออร์ค ฟ็อน ฟรีเดอบวร์ค