รายชื่อแหล่งมรดกโลกในประเทศอินเดีย
องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ได้ขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกโลกของประเทศอินเดียทั้งสิ้น 42 รายการ[1] ประกอบด้วยมรดกโลกทางวัฒนธรรม 34 รายการ มรดกโลกทางธรรมชาติ 7 รายการ และมรดกโลกแบบผสมอีก 1 รายการ
ที่ตั้ง
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ามานสะ
อุทยานแห่งชาติเกวลาเทวะ
อุทยานแห่งชาติหิมาลัยใหญ่
อุทยานนันทาเทวีและหุบเขาดอกไม้
เทือกเขาฆาฏตะวันตก (นิลคีรี)
เทือกเขาฆาฏตะวันตก (สาหยคีรี)
สถานที่ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม
- *หมายเหตุ: ระบุชื่อสถานที่ตามที่ขึ้นทะเบียนในบัญชีมรดกโลก
สถานที่ | ภาพ | ที่ตั้ง | ประเภท | พื้นที่ ha (acre) |
ปี (พ.ศ./ค.ศ.) | หมายเหตุ | อ้างอิง |
---|---|---|---|---|---|---|---|
ป้อมอาครา | รัฐอุตตรประเทศ | วัฒนธรรม: (iii) |
2526/1983 | ป้อมปราการขนาดใหญ่ในเมืองอาคราซึ่งสร้างในศตวรรษที่ 16 เพื่อเป็นที่ประทับของจักรพรรดิราชวงศ์โมกุลประกอบไปด้วยตำหนักต่างๆ และมัสยิดที่ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมเฉพาะที่ที่เกิดจากการผสมผสานจากสถาปัตยกรรมฮินดู อิสลาม ตุรกี เปอร์เซีย เรียกว่าสถาปัตยกรรมโมกุล | [2] | ||
ถ้ำอชันตา | รัฐมหาราษฏระ | วัฒนธรรม: (i), (ii), (iii), (iv) |
2526/1983 | กลุ่มวัดถ้ำพระพุทธศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาล ก่อนจะต่อเติมอีกครั้งในช่วงศตวรรษที่ 5 ถึง 6 ภายในถ้ำจำนวน 30 ถ้ำเต็มไปด้วยงานแกะสลักหิน เป็นองค์เจดีย์ เป็นพระพุทธรูป และภาพจิตรกรรมฝาผนังถ้ำ เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ในพุทธประวัติและชาดก | [3] | ||
ถ้ำเอลโลรา | รัฐมหาราษฏระ | วัฒนธรรม: (i), (iii), (vi) |
2526/1983 | หมู่ศาสนสถานที่สร้างเป็นวิหารเจาะหินเข้าไปในภูเขาจำนวนนับร้อย ประกอบด้วยงานศิลปะและโบราณสถานของศาสนาฮินดู, ศาสนาพุทธ และศาสนาไชนะ อายุราวปี 600–1,000 ปี สร้างขึ้นในจักรวรรดิราษฏรกูฏ (สำหรับวิหารพุทธและฮินดู) และจักรวรรดิยาทวะ (วิหารไชนะ) สนับสนุนการก่อสร้างโดยกษัตริย์ ขุนนาง และผู้ค้าขายที่มั่งคั่งในแต่ละยุคสมัย | [4] | ||
ทัชมาฮาล | รัฐอุตตรประเทศ | วัฒนธรรม: (i) |
2526/1983 | อาคารฝังศพทำด้วยหินอ่อนสีขาวในเมืองอาครา สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 โดยจักรพรรดิโมกุลนามว่าจักรพรรดิชาห์ชะฮันเพื่อตั้งศพของพระสนมเอก มุมตาช มหัล ตัวสุสานออกแบบสถาปัตยกรรมโมกุล ประกอบด้วยอาคารสุสาน มัสยิด เรือนรับรอง และสวนเปอร์เซีย | [5] | ||
กลุ่มโบราณสถานแห่งมหาพลิปุรัม | รัฐทมิฬนาฑู | วัฒนธรรม: (i), (ii), (iii), (vi) |
2527/1984 | กลุ่มโบราณสถานที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 3 ถึง 9 เป็นอดีตเมืองหลวงจักรวรรดิปัลลวะ ประกอบไปด้วยโบสถ์พราหมณ์ (โฆยิล) ทั้งวิหารที่เจาะเข้าไปในถ้ำและวิหารที่สร้างเป็นอาคาร รวมไปถึงงานแกะสลักหินอันงดงาม | [6] | ||
เทวาลัยพระอาทิตย์ โกณารัก | รัฐโอฑิศา | วัฒนธรรม: (i), (iii), (vi) |
2527/1984 | มนเทียรบูชาพระสูรยะที่สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 13 เป็นอาคารสถาปัตยกรรมคาลิงกะตอนปลายที่ยังคงเหลือร่องรอยงานศิลปะ ประติมานวิทยา และการแกะสลักที่วิจิตรตระการตา | [7] | ||
โบสถ์และคอนแวนต์แห่งกัว | กัว | วัฒนธรรม: (ii), (iv), (vi) |
2529/1986 | ภายในเขตอดีตเมืองหลวงรัฐอาณานิคมโปรตุเกสในอินเดียประกอบไปด้วยโบสถ์และคอนแวนต์ที่ถูกสร้างเพื่อเป็นแหล่งศึกษาศาสนาและศาสนสถานของคณะนักบวชคาทอลิกและชาวโปรตุเกสที่เข้ามาทำการค้าที่กัว ในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 เมืองแห่งนี้ยังเป็นศูนย์กลางการเผยแพร่คริสต์ศาสนาของดินแดนตะวันออก | [8] | ||
ฟเตหปุระสีกรี | รัฐอุตตรประเทศ | วัฒนธรรม: (ii), (iii), (vi) |
2529/1986 | อดีตเมืองหลวงจักรวรรดิโมกุลระหว่างปี ค.ศ. 1571 ถึง 1585 ภายในตัวเมืองมีการออกแบบอาคารสถาปัตยกรรมโมกุลและวางผังเมือง ประกอบไปด้วยกำแพงเมืองรอบด้าน พระราชวัง ตำหนัก ฮาเร็ม ศาล มัสยิด และอาคารสาธารณูปโภคต่าง ๆ โดยได้อิทธิพลมาจากสถาปัตยกรรมเปอร์เซียและอาหรับ | [9] | ||
กลุ่มโบราณสถานแห่งฮัมปี | รัฐกรณาฏกะ | วัฒนธรรม: (i), (iii), (iv) |
2529/1986 | อดีตเมืองหลวงจักรวรรดิวิชัยนคร ในช่วงศตวรรษที่ 14 เมืองแห่งนี้มีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุดในเขตอินเดียตอนใต้ ประกอบไปด้วยป้อมปราการ, หมู่อาคารหลวงและศาสนสถาน, เทวาลัย, ศาล, หอที่มีเสา, มณฑป, อนุสาวรีย์, ตลาดรวมไปถึงระบบการจัดการน้ำที่ยังคงหลงเหลือในสภาพดี | [10] | ||
กลุ่มโบราณสถานแห่งขชุราโห | รัฐมัธยประเทศ | วัฒนธรรม: (i), (iii) |
2529/1986 | กลุ่มมนเทียรจำนวน 25 แห่งที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพในศาสนาฮินดูกับศาสนาไชนะ มีความโดดเด่นในเรื่องการแกะสลักศิลปะเชิงกามารมณ์ที่เก่าแก่มาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 10 ถึง 11 รวมไปถึงการออกแบบศาสนสถานที่อิงตามความเชื่อของทั้งสองศาสนา | [11] | ||
ถ้ำเอลิแฟนตา | รัฐมหาราษฏระ | วัฒนธรรม: (i), (iii) |
2530/1987 | หมู่ถ้ำที่เป็นเทวสถานในศาสนาฮินดูที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาพระศิวะเป็นหลัก ภายในหมู่ถ้ำเป็นรูปปั้นแกะสลักเข้าไปในหิน ประกอบด้วยโบสถ์พราหมณ์ลัทธิไศวะ 5 แห่งที่มีการแกะสลักพระศิวะในรูปต่าง ๆ รวมไปถึงเทพปกรณัมในลัทธิไศวนิกาย | [12] | ||
มหาเทวสถานที่มีชีวิตแห่งโจฬะ | รัฐทมิฬนาฑู | วัฒนธรรม: (ii), (iii) |
2530/1987 | เทวสถานฮินดูที่สร้างขึ้นในสมัยจักรวรรดิโจฬะ หรือราวศตวรรษที่ 11 ถึง 12 ประกอบด้วย พฤหทีศวรมนเทียร (ตันชาวุร), คงไคโกนทะโจฬปุรัมมนเทียร และไอรวเตสวรมนเทียร | [13] | ||
กลุ่มโบราณสถานแห่งปัฏฏทกัล | รัฐกรณาฏกะ | วัฒนธรรม: (iii), (iv) |
2530/1987 | หมู่เทวสถานในศาสนาฮินดูและไชนะสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 7 และ 8 ช่วงราชวงศ์จาลุกยะด้วยสถาปัตยกรรมปทามี-จาลุกยะซึ่งพบเห็นมากในเขตลุ่มน้ำมาลประภา ถูกสร้างขึ้นเพื่อบูชาพระศิวะ รวมถึงปรากฏลักษณะเทววิทยาและตำนานแบบลัทธิไวษณพและลัทธิศักติ | [14] | ||
กลุ่มพุทธสถานที่สาญจี | รัฐมัธยประเทศ | วัฒนธรรม: (i), (ii), (iii), (iv), (vi) |
2532/1989 | สถูปหินซึ่งสร้างโดยคำสั่งของพระเจ้าอโศกมหาราชในช่วงพุทธศตวรรษที่ 3 หรือในสมัยราชวงศ์โมริยะ สร้างขึ้นเพื่อเป็นการให้เกียรติและที่เก็บรักษาพระบรมสารีริกธาตุ รอบ ๆ สถูปมีการตกแต่งศิลปะอินเดียโบราณที่เป็นอิทธิพลในการก่อสร้างสถูปศาสนาพุทธในดินแดนต่าง ๆ | [15] | ||
หลุมฝังพระบรมศพของจักรพรรดิหุมายูง เดลี | เดลี | วัฒนธรรม: (ii), (iv) |
2536/1993 | สุสานหลวงที่บรรจุพระบรมศพของจักรพรรดิหุมายูงแห่งจักรวรรดิโมกุล บุคคลผู้นำวัฒนธรรมเปอร์เซียเข้ามาเผยแพร่ในราชสำนักโมกุล ตัวสุสานถูกออกแบบให้เป็นสถาปัตยกรรมเปอร์เซียที่เน้นการวาดลวดลายเรขาคณิต และการออกแบบสวนเปอร์เซียรวมไปถึงกลุ่มสุสานขุนนาง โรงพักม้า และมัสยิด | [16] | ||
กุตุบมีนาร์และโบราณสถาน เดลี | เดลี | วัฒนธรรม: (iv) |
2536/1993 | หมู่อนุสรณ์สถานและอาคารจากสมัยรัฐสุลต่านเดลีในช่วงศตวรรษที่ 14 ประกอบไปด้วยหออะษานกุตุบมีนาร์ มัสยิดกุบบัต-อุล-อิสลาม ประตูอาไลดาร์วาซา โรงเรียนสอนศาสนา หลุมฝังศพ ตำหนักฤดูร้อนของจักรพรรดิ และโลหะสตมภ์ | [17] | ||
ทางรถไฟสายภูเขาแห่งอินเดีย | วัฒนธรรม: (ii), (iv) |
88.99 ha; พื้นที่กันชน 644.88 ha | 2542/1999 | กลุ่มเส้นทางรถไฟที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงที่อินเดียยังคงเป็นรัฐอาณานิคมของอังกฤษราวปลายศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 โดยเป็นเส้นทางที่ปลายทางเป็นเมืองบนภูเขาสูงเพื่อเชื่อมต่อเส้นทางคมนาคมสำหรับการค้าขาย ประกอบด้วย 1. ทางรถไฟสายหิมาลัยดาร์จีลิง 2. ทางรถไฟสายกาลกา–ศิมลา และ 3. ทางรถไฟสายภูเขานีลคีรี | [18] | ||
กลุ่มวัดมหาโพธิที่พุทธคยา | รัฐพิหาร | วัฒนธรรม: (i), (ii), (iii), (iv), (vi) |
2545/2002 | พุทธสังเวชนียสถานที่สำคัญที่สุดและเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวพุทธทั่วโลกในฐานะจุดเริ่มต้นของพระพุทธศาสนา โดยเป็นสถานที่ที่เจ้าชายสิทธัตถะตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์เมื่อ 2,500 ปีก่อน | [19] | ||
เพิงหินภีมเพฏกา | รัฐมัธยประเทศ | วัฒนธรรม: (iii), (v) |
2546/2003 | ร่องรอยจิตรกรรมถ้ำซึ่งเป็นหลักฐานถึงการมีอยู่ของมนุษย์ที่เก่าแก่ที่สุดในอินเดียช่วงยุคพาเลโอลิธิกถึงเมโซลิธิก มีอายุราว 100,000 ถึง 10,000 ปี | [20] | ||
อุทยานโบราณคดีจัมปาเนร์-ปาวาครห์ | รัฐคุชราต | วัฒนธรรม: (iii), (v), (v), (vi) |
2547/2004 | อดีตเมืองในช่วงจักรวรรดิจาวทา ก่อตั้งในศตวรรษที่ 8 โดยราชาวันราช จาวทา ภายในเขตเมืองประกอบด้วยโบราณสถานที่มีตั้งแต่วัง, ประตูเมือง, ซุ้มประตู, สุสาน ที่อยู่อาศัย, สิ่งก่อสร้างเพื่อการเกษตร และสิ่งก่อสร้างทางชลประทาน เช่น ชลาคารกับเขื่อน ที่มีอายุตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 ถึง 14 รวมไปถึงโบสถ์พราหมณ์และมัสยิดที่เปลี่ยนผ่านจากวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมฮินดูไปสู่วัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมอิสลามในปลายศตวรรษที่ 15 ถึงต้นศตวรรษที่ 16 | [21] | ||
สถานีปลายทางฉัตรปติศิวาชี (สถานีปลายทางวิกตอเรียเดิม) | รัฐมหาราษฏระ | วัฒนธรรม: (ii), (iv) |
2547/2004 | สถานีรถไฟปลายทางในนครมุมไบซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1878 และเสร็จในปี ค.ศ. 1887 ในปีที่สิริราชสมบัติครบ 50 ปีของพระนางเจ้าวิคตอเรีย ออกแบบตัวอาคารด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมอิตาเลียนกอธิกผสมผสานกับสถาปัตยกรรมอินเดีย สามารถรองรับรถไฟทั้งขบวนชานเมืองและขบวนทางไกล รวมไปถึงเป็นสำนักงานในการดูแลเครือข่ายเส้นทางรถไฟในเขตตอนกลางของประเทศ | [22] | ||
ป้อมแดง | เดลี | วัฒนธรรม: (ii), (iii), (vi) |
2550/2007 | ป้อมปราการภายในเขตเมืองเก่าเดลี และยังเป็นที่ประทับของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์โมกุลของเมืองหลวงแห่งใหม่หลังจากย้ายมาจากเมืองอาคราในศตวรรษที่ 17 ออกแบบสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างโมกุลกับเปอร์เซีย ตัวป้อมล้อมรอบด้วยกำแพงสีแดงและประตูป้อมที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ภายในประกอบไปด้วยศาลา ตำหนัก โรงอาบน้ำ มัสยิด หอประชุมและปสาน | [23] | ||
ชันตรมันตระ ชัยปุระ | รัฐราชสถาน | วัฒนธรรม: (iii), (vi) |
2553/2010 | แหล่งศึกษาค้นคว้าดาราศาสตร์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยราชาราชปุต สไว ชัย สิงห์ ที่สอง ผู้ก่อตั้งนครชัยปุระ ประกอบไปด้วยกลุ่มหอคอยดูดาว ปฎิทินดวงดาว และนาฬิกาแดดอันเป็นหลักฐานการศึกษาทางด้านดาราศาสตร์และแนวความคิดจักรวาลวิทยาในศตวรรษที่ 18 | [24] | ||
ป้อมเนินแห่งราชสถาน | รัฐราชสถาน | วัฒนธรรม: (ii), (iii) |
2556/2013 | ป้อมปราการโบราณที่สร้างตามภูมิประเทศเขาของรัฐราชสถานในช่วงศตวรรษที่ 8 ถึง 18 โดยกลุ่มราชปุตจากอาณาจักรต่าง ๆ ประกอบด้วย 1. ป้อมจิตโตร์ 2. ป้อมกุมภาลครห์ 3. ป้อมรันตัมบอร์ 4. ป้อมคาโครน 5. ป้อมอาเมร์ และ 6. ป้อมไชสัลเมร์ | [25] | ||
รานี-กี-วาว (บ่อน้ำขั้นบันไดของพระราชินี) ที่ปาฏัณ รัฐคุชราต | รัฐคุชราต | วัฒนธรรม: (i), (iv) |
2557/2014 | [26] | |||
แหล่งโบราณคดีนาลันทามหาวิหาร (มหาวิทยาลัยนาลันทา) ที่นาลันทา พิหาร | รัฐพิหาร | วัฒนธรรม: (iv), (vi) |
2559/2016 | [27] | |||
งานสถาปัตยกรรมของเลอกอร์บูซีเย คุณูปการอันโดดเด่นต่อขบวนการสมัยใหม่ (ร่วมกับญี่ปุ่น เบลเยียม ฝรั่งเศส เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ และอาร์เจนตินา) |
จัณฑีครห์ | วัฒนธรรม: (i) (ii) (vi) |
2559/2016 | สถานที่ที่ขึ้นทะเบียนได้แก่ จัณฑีครห์แคปิตอลคอมเพลกซ์ | [28] | ||
นครประวัติศาสตร์อัห์มดาบาด | รัฐคุชราต | วัฒนธรรม: (ii) (v) |
535.7; พื้นที่กันชน 395 | 2560/2017 | [29] | ||
กลุ่มอาคารกอทิกวิกตอเรียและอลังการศิลป์แห่งมุมไบ | นครมุมไบ | วัฒนธรรม: (ii) (iv) |
66.34; พื้นที่กันชน 378.78 | 2561/2018 | [30] | ||
เมืองชัยปุระ ราชสถาน | รัฐราชสถาน | วัฒนธรรม: (ii) (iv) (vi) |
710; พื้นที่กันชน 2,205 | 2562/2019 | [31] | ||
กากติยารุทเรศวรมนเทียร (รามัปปามนเทียร) เตลังคานา | รัฐเตลังคานา | วัฒนธรรม: (i) (iii) |
5.93; พื้นที่กันชน 66.27 | 2564/2021 | [32] | ||
โธฬาวีรา นครอารยธรรมฮารัปปา | รัฐคุชราต | วัฒนธรรม: (iii) (iv) |
103; พื้นที่กันชน 4,865 | 2564/2021 | [33] | ||
ศานตินิเกตัน | รัฐเบงกอลตะวันตก | วัฒนธรรม: (iv) (vi) |
36; พื้นที่กันชน 537.73 | 2566/2023 | [34] | ||
กลุ่มปูชนียสถานของชาวโหยสฬะ | รัฐกรณาฏกะ | วัฒนธรรม: (i), (ii), (iv) |
10.47; พื้นที่กันชน 195.87 | 2566/2023 | [35] |
แหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ
- *หมายเหตุ: ระบุชื่อสถานที่ตามที่ขึ้นทะเบียนในบัญชีมรดกโลก
สถานที่ | ภาพ | ที่ตั้ง | ประเภท | พื้นที่ ha (acre) |
ปี (พ.ศ./ค.ศ.) | หมายเหตุ | อ้างอิง |
---|---|---|---|---|---|---|---|
อุทยานแห่งชาติกาซีรังคา | รัฐอัสสัม | ธรรมชาติ: (ix), (x) |
2528/1985 | [36] | |||
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ามานสะ | รัฐอัสสัม | ธรรมชาติ: (vii), (ix), (x) |
2528/1985 | [37] | |||
อุทยานแห่งชาติเกวลาเทวะ | รัฐราชสถาน | ธรรมชาติ: (x) |
2528/1985 | [38] | |||
อุทยานแห่งชาติสุนทรพน | รัฐเบงกอลตะวันตก | ธรรมชาติ: (ix), (x) |
2530/1987 | [39] | |||
อุทยานแห่งชาตินันทาเทวีและหุบเขาดอกไม้ | รัฐอุตตราขัณฑ์ | ธรรมชาติ: (vii), (x) |
2531/1988 | [40] | |||
เทือกเขาฆาฏตะวันตก | รัฐเกรละ กรณาฏกะ ทมิฬนาฑู และมหาราษฏระ | ธรรมชาติ: (ix) (x) |
2555/2012 | [41] | |||
อุทยานแห่งชาติหิมาลัยใหญ่ | รัฐหิมาจัลประเทศ | ธรรมชาติ: (vii), (x) |
2557/2014 | [42] |
แหล่งมรดกโลกแบบผสม
- *หมายเหตุ: ระบุชื่อสถานที่ตามที่ขึ้นทะเบียนในบัญชีมรดกโลก
สถานที่ | ภาพ | ที่ตั้ง | ประเภท | พื้นที่ ha (acre) |
ปี (พ.ศ./ค.ศ.) | หมายเหตุ | อ้างอิง |
---|---|---|---|---|---|---|---|
อุทยานแห่งชาติคังเชนเซิงงา | รัฐสิกขิม | ผสม: (iii) (vi) (vii) (x) |
2559/2016 | [43] |
สถานที่ที่ได้ขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้น
ประเทศอินเดียมีสถานที่ที่ได้รับขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) เพื่อพิจารณาเป็นมรดกโลกในอนาคตทั้งสิ้น 50 รายการ[1]
อ้างอิง
- ↑ 1.0 1.1 "World Heritage Properties in India". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 18 กันยายน 2023.
- ↑ "Agra Fort". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Ajanta Caves". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Ellora Caves". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Taj Mahal". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Group of Monuments at Mahabalipuram". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Sun Temple, Konârak". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Churches and Convents of Goa". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Fatehpur Sikri". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Group of Monuments at Hampi". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Khajuraho Group of Monuments". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Elephanta Caves". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Great Living Chola Temples". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Group of Monuments at Pattadakal". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Buddhist Monuments at Sanchi". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Humayun's Tomb, Delhi". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Qutb Minar and its Monuments, Delhi". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Mountain Railways of India". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Mahabodhi Temple Complex at Bodh Gaya". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Rock Shelters of Bhimbetka". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Champaner-Pavagadh Archaeological Park". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Chhatrapati Shivaji Terminus (formerly Victoria Terminus)". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Red Fort Complex". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2015.
- ↑ "The Jantar Mantar, Jaipur". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Hill Forts of Rajasthan". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Rani-ki-Vav (the Queen's Stepwell) at Patan, Gujarat". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Archaeological Site of Nalanda Mahavihara (Nalanda University) at Nalanda, Bihar". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 16 กรกฎาคม 2016.
- ↑ "The Architectural Work of Le Corbusier, an Outstanding Contribution to the Modern Movement". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2016.
- ↑ "Historic City of Ahmadabad". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 9 กรกฎาคม 2017.
- ↑ "Victorian Gothic and Art Deco Ensembles of Mumbai". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 1 กรกฎาคม 2018.
- ↑ "Jaipur City, Rajasthan". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 9 กรกฎาคม 2019.
- ↑ "Kakatiya Rudreshwara (Ramappa) Temple, Telangana". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 26 กรกฎาคม 2021.
- ↑ "Dholavira: a Harappan City". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 28 กรกฎาคม 2021.
- ↑ "Santiniketan". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 17 กันยายน 2023.
- ↑ "Sacred Ensembles of the Hoysalas". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 18 กันยายน 2023.
- ↑ "Kaziranga National Park". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 28 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Manas Wildlife Sanctuary". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 28 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Keoladeo National Park". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 28 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Sundarbans National Park". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 28 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Nanda Devi and Valley of Flowers National Parks". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 28 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Western Ghats". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 28 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Great Himalayan National Park Conservation Area". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 28 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Kaziranga National Park". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 17 กรกฎาคม 2016.