การประกวดเพลงยูโรวิชันปี 2023
การประกวดเพลงยูโรวิชัน 2023 | |
---|---|
รวมใจกันด้วยเสียงดนตรี (United by Music) | |
![]() เวทีภายในลิเวอร์พูลอารีนา | |
วันและเวลา | |
รอบรองชนะเลิศรอบที่ 1 | 9 พฤษภาคม ค.ศ. 2023 |
รอบรองชนะเลิศรอบที่ 2 | 11 พฤษภาคม ค.ศ. 2023 |
รอบชิงชนะเลิศ | 13 พฤษภาคม ค.ศ. 2023 |
เจ้าภาพ | |
สถานที่จัดงาน | ลิเวอร์พูลอารีนา ลิเวอร์พูล สหราชอาณาจักร |
ผู้บริหารระดับสูง | มัตติน เอิสเตอดอล |
สถานีโทรทัศน์เจ้าภาพ | บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ (บีบีซี) |
ประเทศที่เข้าร่วม | |
จำนวนประเทศที่เข้าร่วม | 37 |
ประเทศที่ถอนตัว/ไม่กลับมาเข้าร่วม |
|
การลงคะแนน | |
เพลงชนะเลิศ | ![]() "แทตทู" |
การประกวดเพลงยูโรวิชันปี 2023 เป็นการประกวดเพลงซึ่งจัดขึ้นที่เมืองลิเวอร์พูล สหราชอาณาจักร ดำเนินการโดยสหภาพการแพร่สัญญาณวิทยุและโทรทัศน์แห่งยุโรป ซึ่งสหราชอาณาจักรรับหน้าที่แทนยูเครนซึ่งอยู่ในภาวะสงคราม ทำให้ไม่สามารถจัดประกวดได้[1][2] โดยมีประเทศที่เข้าร่วมทั้งหมด 37 ประเทศ แข่งขันรอบคัดเลือกในวันที่ 9 และ 11 พฤษภาคม ค.ศ. 2023 และรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 2023 โดยเป็นการจัดประกวดครั้งที่เก้าของสหราชอาณาจักร และเป็นการจัดประกวดครั้งแรกในเมืองลิเวอร์พูล[3]
การตัดสินผู้ชนะในปีนี้ ใช้คะแนนโหวตจากผู้ชมทั้งหมดในรอบคัดเลือก และคะแนนโหวตจากคณะกรรมการกับจากผู้ชมในรอบชิงชนะเลิศ[4] นอกจากนี้ ผู้ชมจากประเทศที่ไม่ได้เข้าร่วมประกวดจะสามารถโหวตได้ทางออนไลน์ในทุกรอบ โดยใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตในการยืนยันตัวตน ซึ่งคะแนนดังกล่าวจะรวมเป็น "ส่วนอื่นของโลก" (Rest of the World) ในการประมวลผลเพื่อตัดสินผู้เข้ารอบสุดท้ายหรือผู้ชนะเลิศ[5]
สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีคามิลลา เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดและทอดพระเนตรเวทีการประกวดเมื่อวันที่ 28 เมษายน ระหว่างการเสด็จเยือนเมืองลิเวอร์พูล นอกจากนี้ทั้งสองพระองค์ยังทรงร่วมแสดงในวิดีโอเปิดตัว ก่อนการแข่งขันรอบคัดเลือกที่หนึ่ง (Semi-Final 1) ในวันที่ 9 พฤษภาคมด้วย[6] อนึ่ง พระราชพิธีราชาภิเษกและสถาปนาสมเด็จพระราชินี ได้จัดขึ้นในวันที่ 6 พฤษภาคม สามวันก่อนการประกวดรอบคัดเลือกจะเริ่มต้น[7]
ในรอบชิงชนะเลิศ แคเธอริน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ทรงร่วมแสดงในวิดีโอเปิดตัว[8] และดันแคน ลอว์เรนซ์ ผู้ชนะการประกวดในปี 2019 ได้ขับร้องเพลง "ยูลล์เนฟเวอร์วอล์กอะโลน" ซึ่งเป็นเพลงเชียร์ประจำสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล เป็นการปิดท้ายการแสดงระหว่างรอผลการประกวดอีกด้วย[9] ก่อนหน้านี้ วอลอดือมือร์ แซแลนสกึย ประธานาธิบดียูเครน ได้ส่งคำขอที่จะปรากฏตัวในงานผ่านวิดีโอที่บันทึกไว้ล่วงหน้า แต่ได้รับการปฏิเสธจากคณะกรรมการจัดประกวด โดยให้เหตุผลว่า "ไม่ต้องการให้การเมืองมาเกี่ยวข้องมากเกินไป"[10][11]
ผู้ชนะการประกวดในปีนี้คือ ลอรีน จากสวีเดน โดยเป็นศิลปินคนที่สองและศิลปินหญิงคนแรกที่ชนะการประกวดยูโรวิชันมากกว่าหนึ่งครั้ง และทำให้สวีเดนครองสถิติชนะการประกวดมากที่สุดรวมเจ็ดครั้ง เท่ากับไอร์แลนด์[12][13]
อ้างอิง
- ↑ "EBU Statement on Hosting of 2023 Eurovision Song Contest". Eurovision.tv (Press release) (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). EBU. 17 June 2022. สืบค้นเมื่อ 17 June 2022.
- ↑ Savage, Mark (2022-05-15). "Eurovision 2022: How Sam Ryder turned things around for the UK". BBC News (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2022-05-18.
- ↑ "Liverpool will host Eurovision 2023". Eurovision.tv (ภาษาอังกฤษ). European Broadcasting Union (EBU). 2022-10-07. สืบค้นเมื่อ 2022-10-07.
- ↑ "Voting changes announced for Eurovision Song Contest 2023". Eurovision.tv. European Broadcasting Union (EBU). 2022-11-22. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-11-22. สืบค้นเมื่อ 2022-11-22.
- ↑ "Voting changes (2023) FAQ". Eurovision.tv. European Broadcasting Union (EBU). 22 November 2022. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 November 2022. สืบค้นเมื่อ 22 November 2022.
- ↑ "King Charles and Queen Camilla make surprise appearance at the Eurovision Song Contest 2023". eurovision.tv (ภาษาอังกฤษ). 2023-05-09.
- ↑ Rosney, Daniel (2023-04-26). "Eurovision 2023: King Charles tells Mae Muller he will be 'egging you on'". BBC News (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2023-04-29.
- ↑ "Eurovision: Princess of Wales makes surprise appearance". BBC News (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2023-05-13. สืบค้นเมื่อ 2023-05-14.
- ↑ Santos, Pedro (2023-05-13). "Eurovision 2023: All about the Grand Final". Eurovisionworld (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2023-05-13.
- ↑ "Statement from the European Broadcasting Union on President Zelensky and the Eurovision Song Contest". ebu.ch (ภาษาอังกฤษ). European Broadcasting Union. 2023-05-11. สืบค้นเมื่อ 2023-05-12.
- ↑ Yossman, K.J. (2023-05-12). "Ukrainian President Volodymyr Zelenskyy 'Barred' From Eurovision Telecast" (ภาษาอังกฤษ). Variety. สืบค้นเมื่อ 2023-05-12.
- ↑ "Sweden's Loreen wins Eurovision Song Contest as Russian missiles hit home town of Ukraine's contestants". Sky News. สืบค้นเมื่อ 13 May 2023.
- ↑ Picheta, Rob (13 May 2023), "Sweden's Loreen wins historic second Eurovision, after emotional show in Britain that celebrated Ukraine", CNN, สืบค้นเมื่อ 13 May 2023