ฟุตบอลโลก 2010

ฟุตบอลโลก 2010
2010 FIFA World Cup South Africa
FIFA Sokker-Wêreldbekertoernooi in 2010
สัญลักษณ์ฟุตบอลโลก 2010 อย่างเป็นทางการ
รายละเอียดการแข่งขัน
ประเทศเจ้าภาพแอฟริกาใต้
วันที่11 มิถุนายน - 11 กรกฎาคม
ทีม32 (จาก 6 สมาพันธ์)
สถานที่10 (ใน 9 เมืองเจ้าภาพ)
อันดับเมื่อสิ้นสุดการแข่งขัน
ชนะเลิศธงชาติสเปน สเปน (สมัยที่ 1)
รองชนะเลิศธงชาติเนเธอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์
อันดับที่ 3ธงชาติเยอรมนี เยอรมนี
อันดับที่ 4ธงชาติอุรุกวัย อุรุกวัย
สถิติการแข่งขัน
จำนวนนัดที่แข่งขัน64
จำนวนประตู145 (2.27 ประตูต่อนัด)
ผู้ชม3,178,856 (49,670 คนต่อนัด)
ผู้ทำประตูสูงสุดเยอรมนี โทมัส มึลเลอร์
สเปน ดาบิด บียา
เนเธอร์แลนด์ เวสลีย์ สไนเดอร์
อุรุกวัย เดียโก ฟอร์ลัน
(5 ประตู)
ผู้เล่นยอดเยี่ยมอุรุกวัย เดียโก ฟอร์ลัน[1]
ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมสเปน อิเกร์ กาซิยัส
ผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมเยอรมนี โทมัส มึลเลอร์
รางวัลแฟร์เพลย์ธงชาติสเปน สเปน
2006
2014

ฟุตบอลโลก ฟีฟ่า 2010 เป็นการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งที่ 19 ที่เป็นรายการแข่งขันฟุตบอลนานาชาติ ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศแอฟริกาใต้ ระหว่างวันที่ 11 มิถุนายน ถึงวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 โดยเริ่มการคัดเลือกในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2550 และมีฟุตบอลทีมชาติสมาชิกฟีฟ่า เข้าร่วมแข่งขันจำนวน 204 จาก 208 ทีม ฟุตบอลโลกครั้งนี้จึงเป็นการแข่งขันซึ่งมีประเทศเข้าร่วมแข่งขันจำนวนมากที่สุด เทียบเท่ากับจำนวนประเทศในโอลิมปิกฤดูร้อน 2008 และยังเป็นฟุตบอลโลกครั้งแรกที่ชาติจากทวีปแอฟริกาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน หลังจากที่แอฟริกาใต้ประมูลชนะโมร็อกโกและอียิปต์ในการเสนอชื่อ ทั้งนี้ ทีมชาติอิตาลีจะลงแข่งขันเพื่อป้องกันตำแหน่งชนะเลิศที่ได้มาในฟุตบอลโลก 2006 ซึ่งจัดขึ้นในประเทศเยอรมนี

ทีมชาติสเปนซึ่งชนะเลิศมาจากการแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป เมื่อปี พ.ศ. 2551 ชนะเลิศในการแข่งขันกับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ 1 ต่อ 0 ประตูในช่วงต่อเวลาพิเศษ โดยอันเดรส อีเนียสตาทำประตูให้กับสเปน และทำให้ทีมสเปนชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอลโลกเป็นสมัยแรก, ผู้ชนะเลิศครั้งก่อนอย่างอิตาลี รวมถึงฝรั่งเศสซึ่งเป็นทีมรองชนะเลิศครั้งก่อน ล้วนแต่ตกรอบแรก โดยที่อาร์เจนตินา (รอบ 8 ทีม), บราซิล (รอบ 8 ทีม) และเยอรมนี (รอบรองชนะเลิศ) ส่วนเจ้าภาพตกรอบแรก โดยมี 4 คะแนน ได้อันดับ 3 ของกลุ่ม A

การคัดเลือกเจ้าภาพ

แอฟริกาใต้ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2010 ตามนโยบายการหมุนเวียนการเป็นเจ้าภาพในแต่ละสมาพันธ์ฟุตบอลต่าง ๆ (ตามมติในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2550) มีทีมจากทวีปแอฟริกาเสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2010:

ต่อมาคณะกรรมการบริหารของฟีฟ่าไม่อนุญาตให้มีเจ้าภาพร่วมในการจัดการแข่งขัน ตูนิเซียถอนตัวออกจากการคัดเลือก คณะกรรมการตัดสิทธิลิเบียออกจากการคัดเลือกเนื่องจากมีคุณสมบัติไม่เพียงพอ

หลังจากการลงคะแนนเสียง ผู้ชนะการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพถูกประกาศโดยเซปป์ แบลตเตอร์ ประธานฟีฟ่า ต่อหน้าสื่อมวลชนในวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2547 ณ เมืองซูริกว่าประเทศแอฟริกาใต้ได้รับสิทธิ์ให้เป็นผู้จัดการแข่งขันอย่างถูกต้อง เอาชนะโมร็อกโกและอียิปต์[2]

ผลการลงคะแนน
ประเทศ คะแนนเสียง
ธงของประเทศแอฟริกาใต้ แอฟริกาใต้ 14
ธงของประเทศโมร็อกโก โมร็อกโก 10
ธงของประเทศอียิปต์ อียิปต์ 0
  • ธงของประเทศตูนิเซีย ตูนิเซีย ถอนตัวในวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2547 หลังไม่อนุญาตให้มีเจ้าภาพร่วมจัดการแข่งขัน
  • ธงของประเทศลิเบีย ลิเบีย การเสนอตัวถูกปฏิเสธ: เนื่องจากคุณสมบัติไม่เพียงพอ

ระหว่างปี พ.ศ. 2549-2550 ได้เกิดกระแสข่าวลือขึ้นในแหล่งข่าวหลายแห่งว่าการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 อาจย้ายไปจัดในประเทศอื่น[3][4] มีรายงานว่าผู้บริหารฟีฟ่าบางคนแสดงว่ากังวลต่อการวางแผน การจัดการ และความคืบหน้าของการเตรียมการของแอฟริกาใต้[3][5] อย่างไรก็ตาม ฟีฟ่าได้แสดงความเชื่อมั่นว่าแอฟริกาใต้จะสามารถเป็นเจ้าภาพได้ โดยกล่าวว่าแผนฉุกเฉินจะเกิดขึ้นเฉพาะเพื่อรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในการแข่งขันฟุตบอลโลกในอดีต[6]

รายชื่อประเทศที่เข้ารอบ

ทีมที่ร่วมแข่งขัน

ในครั้งนี้มีทีมเข้าร่วมแข่งขัน 32 ทีม โดยทีมจากแอฟริกาใต้ผ่านรอบคัดเลือกในฐานะทีมเจ้าภาพ และสำหรับทีมอื่นจะทำการแข่งขันดังนี้

  • ยุโรป - 13 ทีม เริ่มแข่งขันรอบคัดเลือกเมื่อ กันยายน 2551
  • แอฟริกา - 6 ทีม
  • อเมริกาใต้ - 4.5 ทีม โดยแข่งเพลย์ออฟกับอเมริกาเหนือ
  • อเมริกาเหนือ - 3.5 ทีม แข่งเพลย์ออฟกับอเมริกาใต้
  • เอเชีย - 4.5 ทีม แข่งเพลย์ออฟกับโอเชียเนีย
  • โอเชียเนีย - 0.5 ทีม แข่งเพลย์ออฟกับเอเชีย

ทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย

ผลการจับสลากแบ่งกลุ่มในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย

กลุ่ม A กลุ่ม B กลุ่ม C กลุ่ม D
กลุ่ม E กลุ่ม F กลุ่ม G กลุ่ม H

สัญลักษณ์และเพลงประจำการแข่งขัน

แมสคอท

แมสคอทอย่างเป็นทางการในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ชื่อ ซากูมี (Zakumi) เกิดเมื่อ (1994-06-16) 16 มิถุนายน ค.ศ. 1994 (29 ปี) เป็นมนุษย์ครึ่งเสือดาวผมสีเขียว ชื่อซากูมีมีที่มาจาก "ZA" ซึ่งเป็นรหัสประเทศของประเทศแอฟริกาใต้ และ "kumi" ซึ่งมีความหมายว่า "สิบ" ซึ่งเป็นจำนวนภาษาที่หลากหลายในแอฟริกา[7] สีของตัวนำโชคนี้บ่งบอกถึงชุดที่ทีมเจ้าภาพใช้ทำการแข่งขัน คือ สีเหลืองและสีเขียว

วันเกิดของซากูมีใช้วันเดียวกับวันเด็กในประเทศแอฟริกาใต้ รวมทั้งเป็นวันที่ทีมชาติแอฟริกาใต้จะทำการแข่งขันนัดที่ 2 ในรอบแบ่งกลุ่ม นอกจากนี้วันเกิดของซากูมิยังหมายถึงวันแรกของแอฟริกาใต้ที่มีการเลือกตั้งแบบไม่จำกัดสีผิวและเชื้อชาติ[8]

คำขวัญของซากูมี คือ "Zakumi's game is Fair Play." แปลว่า "เกมของซากูมีคือเกมที่ขาวสะอาด" โดยคำขวัญนี้ได้แสดงในป้ายโฆษณาดิจิทัลระหว่างการแข่งขันคอนเฟเดอเรชันคัพ 2009 และจะปรากฏอีกในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010[8]

เพลงประกอบการแข่งขัน

  • Sign of a Victory โดยอาร์. เคลลี ร่วมด้วยกลุ่มนักร้อง Soweto Spiritual เป็นเพลงสรรเสริญของการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2010
  • Waka Waka (This Time For Africa) โดยชากีรา ร่วมด้วยเฟรชลีกราวนด์ โดย "Waka Waka" เป็นวลีในภาษาผสมแก้ขัด (พิดจิน) ที่มีพื้นฐานจากภาษาฟาง (Fang) ในภูมิภาคแอฟริกากลาง แปลความหมายได้ว่า "(ได้เวลาแล้ว) ทำเลย/ลุยเลย"[9]
  • Game On โดย Pitbull, TKZee และ Dario G เป็นเพลงประจำตัวซากูมีในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2010
  • เวฟวิงแฟลก โดยเคนาน บริษัทโคคา-โคล่า ได้ตัดสินใจเลือกเพลงนี้ เพื่อใช้ในการโปรโมทเทศกาลฟุตบอลโลก 2010 ครั้งนี้ สำหรับเวอร์ชันภาษาอังกฤษจะถูกวางจำหน่ายโดยใช้ชื่อว่า "เวฟวิงแฟลก (เดอะเซเลเบรชันมิกซ์)" โดยเคนานเอง ร่วมกับเวอร์ชันภาษาอื่น ๆ ในการวางจำหน่าย เช่นเดียวกับประเทศไทย ที่ใช้ชื่อเพลงว่า "โอ๊ โอ่ โอ โอ๊ โอ่" ขับร้องโดยแทททู คัลเล่อร์
  • Oh Africa โดยเอคอน ร่วมด้วยเคอรี ฮิลสัน เพลงประชาสัมพันธ์ฟุตบอลโลกโดยเป๊ปซี่ โดยในเพลงนี้ นิภาภรณ์ ฐิติธนการ (ซานิ) ผู้ชนะเลิศทรู อะคาเดมี่ แฟนเทเชีย ซีซั่นที่ 6 ร่วมร้องในท่อนคอรัสและร่วมแสดงในมิวสิกวิดีโอด้วย

สถานที่แข่งขัน

แผนที่พิกัดทั้งหมด กำลังใช้ OpenStreetMap 
ดาวน์โหลดพิกัดเป็น KML

ในปี พ.ศ. 2548, ผู้จัดการแข่งขันได้เปิดเผยรายชื่อสถานที่ใช้ทำการแข่งขันฟุตบอลโลกทั้ง 13 ที่เมืองบลูมฟอนเทน, เคปทาวน์, เดอร์บัน, โจฮันเนสเบิร์ก (2 สถานที่), คิมเบอร์ลีย์, เนลสไปรต์, ออร์กนีย์, โพโลเควน, พอร์ตเอลิซาเบท, พริทอเรีย และรุสเทนเบิร์ก โดย 10 สนาม[10] ที่แสดงอยู่ด้านล่าง เป็นสนามที่ได้รับการรับรองจากฟีฟ่าอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2549

โจฮันเนสเบิร์ก เคปทาวน์ เดอร์บัน โจฮันเนสเบิร์ก
ซอกเกอร์ซิตี เคปทาวน์ โมเสสมาบีดา เอลลิสปาร์ก
26°14′5.27″S 27°58′56.47″E / 26.2347972°S 27.9823528°E / -26.2347972; 27.9823528 (Soccer City) 33°54′12.46″S 18°24′40.15″E / 33.9034611°S 18.4111528°E / -33.9034611; 18.4111528 (Cape Town Stadium) 29°49′46″S 31°01′49″E / 29.82944°S 31.03028°E / -29.82944; 31.03028 (Moses Mabhida Stadium) 26°11′51.07″S 28°3′38.76″E / 26.1975194°S 28.0607667°E / -26.1975194; 28.0607667 (Ellis Park Stadium)
ความจุ: 84,490 ความจุ: 64,100 ความจุ: 62,760 ความจุ: 55,686
พริทอเรีย พอร์ตเอลิซาเบท
ลอฟตัสเวอร์สเฟลด์ เนลสันมันเดลาเบย์
25°45′12″S 28°13′22″E / 25.75333°S 28.22278°E / -25.75333; 28.22278 (Loftus Versfeld Stadium) 33°56′16″S 25°35′56″E / 33.93778°S 25.59889°E / -33.93778; 25.59889 (Nelson Mandela Bay Stadium)
ความจุ: 42,858 ความจุ: 42,486
โพโลเควน เนลสไปรต์ บลูมฟอนเทน รุสเทนเบิร์ก
23°55′29″S 29°28′08″E / 23.924689°S 29.468765°E / -23.924689; 29.468765 (Peter Mokaba Stadium) 25°27′42″S 30°55′47″E / 25.46172°S 30.929689°E / -25.46172; 30.929689 (Mbombela Stadium) 29°07′02.25″S 26°12′31.85″E / 29.1172917°S 26.2088472°E / -29.1172917; 26.2088472 (Free State Stadium) 25°34′43″S 27°09′39″E / 25.5786°S 27.1607°E / -25.5786; 27.1607 (Royal Bafokeng Stadium)
ปีเตอร์โมกาบา อึมบอมเบลา ฟรีสเตต รอยัลบาโฟเกง
ความจุ: 41,733 ความจุ: 40,929 ความจุ: 40,911 ความจุ: 38,646

ผู้ตัดสิน

ฟีฟ่าได้เลือกผู้ตัดสินตามรายชื่อต่อไปนี้เพื่อทำหน้าที่ในฟุตบอลโลก:[11]

ผลการแข่งขัน

รอบแรก (แบ่งกลุ่ม)

กลุ่ม A

ทีม
แข่ง ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย ต่าง แต้ม
ธงชาติอุรุกวัย อุรุกวัย 3 2 1 0 4 0 +4 7
ธงชาติเม็กซิโก เม็กซิโก 3 1 1 1 3 2 +1 4
ธงชาติแอฟริกาใต้ แอฟริกาใต้ 3 1 1 1 3 5 −2 4
ธงชาติฝรั่งเศส ฝรั่งเศส 3 0 1 2 1 4 −3 1


11 มิถุนายน
แอฟริกาใต้ ธงชาติแอฟริกาใต้
ซีพีเว ชาบาลาลา (น.55)
1–1 ธงชาติเม็กซิโก เม็กซิโก
ราฟาเอล มาร์เกซ (น.79)
ซอกเกอร์ซิตี โจฮันเนสเบิร์ก
อุรุกวัย ธงชาติอุรุกวัย 0–0 ธงชาติฝรั่งเศส ฝรั่งเศส สนามกีฬากรีนพอยต์ เคปทาวน์
16 มิถุนายน
แอฟริกาใต้ ธงชาติแอฟริกาใต้ 0–3 ธงชาติอุรุกวัย อุรุกวัย
เดียโก ฟอร์ลัน (น.24, จุดโทษ น.80),
อัลบาโร เปเรย์รา (น.95)
สนามกีฬาลอฟตัสเวอร์สเฟลด์ พริทอเรีย
17 มิถุนายน
ฝรั่งเศส ธงชาติฝรั่งเศส 0-2 ธงชาติเม็กซิโก เม็กซิโก
คาเบียร์ เอร์นันเดซ บัลกาซาร์ (น.64),
เกวาเตมอก บลังโก (จุดโทษ, น.79)
สนามกีฬาปีเตอร์โมกาบา โพโลเควน
22 มิถุนายน
เม็กซิโก ธงชาติเม็กซิโก 0-1 ธงชาติอุรุกวัย อุรุกวัย
ลุยส์ อัลเบร์โต ซัวเรซ (น.43)
สนามกีฬารอยัลบาโฟเกง รุสเทนเบิร์ก
ฝรั่งเศส ธงชาติฝรั่งเศส
ฟลอรอง มาลูดา (น.70)
1-2 ธงชาติแอฟริกาใต้ แอฟริกาใต้
บองกานี คูมาโล (น.20),
คัตเลโก อึมเพลา (น.37)
สนามกีฬาฟรีสเตต บลูมฟอนเทน

กลุ่ม B

ทีม
แข่ง ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย ต่าง แต้ม
ธงชาติอาร์เจนตินา อาร์เจนตินา 3 3 0 0 7 1 +6 9
ธงชาติเกาหลีใต้ เกาหลีใต้ 3 1 1 1 5 6 −1 4
ธงชาติกรีซ กรีซ 3 1 0 2 2 5 −3 3
ธงชาติไนจีเรีย ไนจีเรีย 3 0 1 2 3 5 −2 1


12 มิถุนายน
เกาหลีใต้ ธงชาติเกาหลีใต้
ลี จุง-ซู (น.7),
ปาร์ก จี-ซอง (น.52)
2–0 ธงชาติกรีซ กรีซ
สนามกีฬาเนลสันมันเดลาเบย์ พอร์ตเอลิซาเบท
อาร์เจนตินา ธงชาติอาร์เจนตินา
กาเบรียล เอย์นเซ (น.5)
1–0 ธงชาติไนจีเรีย ไนจีเรีย สนามกีฬาเอลลิสพาร์ก โจฮันเนสเบิร์ก
17 มิถุนายน
อาร์เจนตินา ธงชาติอาร์เจนตินา
ปาร์ก ชู-ยอน (เข้าประตูตัวเอง; น.16),
กอนซาโล อีกวาอิน (น.32, 76, 80)
4-1 ธงชาติเกาหลีใต้ เกาหลีใต้
ลี ชุง-ยอง (น.46)
ซอกเกอร์ซิตี โจฮันเนสเบิร์ก
กรีซ ธงชาติกรีซ
ดีมีทริส ซัลพีกีดิส (น.44),
วาซีริส โทโรซีดิส (น.71)
2-1 ธงชาติไนจีเรีย ไนจีเรีย
คาลู อูเช (น.16)
สนามกีฬาฟรีสเตต โจฮันเนสเบิร์ก
22 มิถุนายน
ไนจีเรีย ธงชาติไนจีเรีย
คาลู อูเช (น.12),
ยาคูบู ไอเยกเบนี (จุดโทษ น.69)
2-2 ธงชาติเกาหลีใต้ เกาหลีใต้
ลี จุง-ซู (น.38),
ปาร์ก ชู-ยอง (น.49)
สนามกีฬาโมเสสมาบีดา เดอร์บัน
กรีซ ธงชาติกรีซ 0-2 ธงชาติอาร์เจนตินา อาร์เจนตินา
มาร์ติน เดมีเชลิส (น.77),
มาร์ติน ปาเลร์โม (น.89)
สนามกีฬาปีเตอร์โมกาบา, โพโลเควน

กลุ่ม C

ทีม
แข่ง ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย ต่าง แต้ม
ธงชาติสหรัฐ สหรัฐ 3 1 2 0 4 3 +1 5
ธงชาติอังกฤษ อังกฤษ 3 1 2 0 2 1 +1 5
ธงชาติสโลวีเนีย สโลวีเนีย 3 1 1 1 3 3 0 4
ธงชาติแอลจีเรีย แอลจีเรีย 3 0 1 2 0 2 −2 1


12 มิถุนายน
อังกฤษ ธงชาติอังกฤษ
สตีเฟน เจอร์ราร์ด (น.4)
1–1 ธงชาติสหรัฐ สหรัฐ
คลินต์ เดมป์ซีย์ (น.40)
สนามกีฬารอยัลบาโฟเกง รุสเทนเบิร์ก
13 มิถุนายน
แอลจีเรีย ธงชาติแอลจีเรีย 0–1 ธงชาติสโลวีเนีย สโลวีเนีย
โรเบิร์ต โคเรน (น.79)
สนามกีฬาปีเตอร์โมกาบา โพโลเควน
18 มิถุนายน
สโลวีเนีย ธงชาติสโลวีเนีย
วัลเตอร์ บีร์ซา (น.13),
ซลาตัน ลูบียันคิช (น.42)
2-2 ธงชาติสหรัฐ สหรัฐ
แลนดอน ดอโนแวน (น.48),
ไมเคิล แบรดลีย์ (น.82)
สนามกีฬาเอลลิสพาร์ก โจฮันเนสเบิร์ก
อังกฤษ ธงชาติอังกฤษ 0-0 ธงชาติแอลจีเรีย แอลจีเรีย สนามกีฬากรีนพอยต์ เคปทาวน์
23 มิถุนายน
สโลวีเนีย ธงชาติสโลวีเนีย 0-1 ธงชาติอังกฤษ อังกฤษ
เจอร์เมน เดโฟ (น.23)
สนามกีฬาเนลสันมันเดลาเบย์ พอร์ตเอลิซาเบท
สหรัฐ ธงชาติสหรัฐ
แลนดอน ดอโนแวน (น.90+1)
1-0 ธงชาติแอลจีเรีย แอลจีเรีย สนามกีฬาลอฟตัสเวอร์สเฟลด์ พริทอเรีย

กลุ่ม D

ทีม
แข่ง ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย ต่าง แต้ม
ธงชาติเยอรมนี เยอรมนี 3 2 0 1 5 1 +4 6
ธงชาติกานา กานา 3 1 1 1 2 2 0 4
ธงชาติออสเตรเลีย ออสเตรเลีย 3 1 1 1 3 6 −3 4
ธงชาติเซอร์เบีย เซอร์เบีย 3 1 0 2 2 3 −1 3


13 มิถุนายน
เซอร์เบีย ธงชาติเซอร์เบีย 0-1 ธงชาติกานา กานา
อซาโมอาห์ กียาน (จุดโทษ น.85)
สนามกีฬาลอฟตัสเวอร์สเฟลด์ พริทอเรีย
เยอรมนี ธงชาติเยอรมนี
ลูคัส โพโดลสกี (น.8),
มิโรสลาฟ โคลเซ (น.27),
โทมัส มึลเลอร์ (น.68),
คาเคา (น.70)
4–0 ธงชาติออสเตรเลีย ออสเตรเลีย สนามกีฬาโมเสสมาบีดา เดอร์บัน
18 มิถุนายน
เยอรมนี ธงชาติเยอรมนี 0-1 ธงชาติเซอร์เบีย เซอร์เบีย
มิลาน โยวาโนวิช (น.38)
สนามกีฬาเนลสันมันเดลาเบย์ พอร์ตเอลิซาเบท
19 มิถุนายน
กานา ธงชาติกานา
อซาโมอาห์ กียาน (จุดโทษ น.25)
1-1 ธงชาติออสเตรเลีย ออสเตรเลีย
เบรตต์ โฮลแมน (น.11)
สนามกีฬารอยัลบาโฟเกง รุสเทนเบิร์ก
23 มิถุนายน
กานา ธงชาติกานา 0-1 ธงชาติเยอรมนี เยอรมนี
เมซุท เอิทซิล (น.60)
ซอกเกอร์ซิตี โจฮันเนสเบิร์ก
ออสเตรเลีย ธงชาติออสเตรเลีย
ทิม เคฮิลล์ (น.69),
เบรตต์ โฮลแมน (น.73)
2-1 ธงชาติเซอร์เบีย เซอร์เบีย
มาร์โก พานเตลิช (น.84)
สนามกีฬาอึมบอมเบลา เนลสไปรต์

กลุ่ม E

ทีม
แข่ง ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย ต่าง แต้ม
ธงชาติเนเธอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ 3 3 0 0 5 1 +4 9
ธงชาติญี่ปุ่น ญี่ปุ่น 3 2 0 1 4 2 +2 6
ธงชาติเดนมาร์ก เดนมาร์ก 3 1 0 2 3 6 −3 3
ธงชาติแคเมอรูน แคเมอรูน 3 0 0 3 2 5 −3 0


14 มิถุนายน
เนเธอร์แลนด์ ธงชาติเนเธอร์แลนด์
ดาเนียล แอกเกอร์ (เข้าประตูตัวเอง) (น.46),
ดีร์ก เกยต์ (น.85)
2-0 ธงชาติเดนมาร์ก เดนมาร์ก ซอกเกอร์ซิตี โจฮันเนสเบิร์ก
ญี่ปุ่น ธงชาติญี่ปุ่น
เคซุเกะ ฮนดะ (น.39)
1–0 ธงชาติแคเมอรูน แคเมอรูน สนามกีฬาฟรีสเตต บลูมฟอนเทน
19 มิถุนายน
เนเธอร์แลนด์ ธงชาติเนเธอร์แลนด์
เวสลีย์ สไนเดอร์ (น.53)
1-0 ธงชาติญี่ปุ่น ญี่ปุ่น สนามกีฬาโมเสสมาบีดา เดอร์บัน
แคเมอรูน ธงชาติแคเมอรูน
ซามูเอล เอโต (น.10)
1-2 ธงชาติเดนมาร์ก เดนมาร์ก
นิคลาส เบนท์เนอร์ (น.33),
เดนนิส รอมเมดาห์ล (น.61)
ลอฟตัสเวอร์สเฟลด์ พริทอเรีย
24 มิถุนายน
เดนมาร์ก ธงชาติเดนมาร์ก
ยอน ดาห์ล โทมัสสัน (น.81)
1-3 ธงชาติญี่ปุ่น ญี่ปุ่น
เคซุเกะ ฮนดะ (น.17),
ยะซุฮิโตะ เอ็นโด (น.30),
ชินจิ โอะกะซะกิ (น.87)
สนามกีฬารอยัลบาโฟเกง รุสเทนเบิร์ก
แคเมอรูน ธงชาติแคเมอรูน
ซามูเอล เอโต (จุดโทษ น.65)
1-2 ธงชาติเนเธอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์
โรบิน ฟัน แปร์ซี (น.36),
กลาส-ยัน ฮึนเตอลาร์ (น.83)
สนามกีฬาเคปทาวน์ เคปทาวน์

กลุ่ม F

ทีม
แข่ง ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย ต่าง แต้ม
ธงชาติปารากวัย ปารากวัย 3 1 2 0 3 1 +2 5
ธงชาติสโลวาเกีย สโลวาเกีย 3 1 1 1 4 5 −1 4
ธงชาตินิวซีแลนด์ นิวซีแลนด์ 3 0 3 0 2 2 0 3
ธงชาติอิตาลี อิตาลี 3 0 2 1 4 5 −1 2


14 มิถุนายน
อิตาลี ธงชาติอิตาลี
ดานีเอเล เด รอสซี (น.63)
1-1 ธงชาติปารากวัย ปารากวัย
อันโตลิน อัลการัซ (น. 39)
สนามกีฬากรีนพอยต์ เคปทาวน์
15 มิถุนายน
นิวซีแลนด์ ธงชาตินิวซีแลนด์
วินสตัน รีด (น.93)
1-1 ธงชาติสโลวาเกีย สโลวาเกีย
รอเบิร์ต วิตเตก (น.50)
สนามกีฬารอยัลบาโฟเกง รุสเทนเบิร์ก
20 มิถุนายน
สโลวาเกีย ธงชาติสโลวาเกีย 0-2 ธงชาติปารากวัย ปารากวัย
เอนรีเก เบรา (น.27),
กริสเตียน รีเบโรส (น.86)
สนามกีฬาฟรีสเตต บลูมฟอนเทน
อิตาลี ธงชาติอิตาลี
วินเชนโซ ยากวินตา (น.29)
1-1 ธงชาตินิวซีแลนด์ นิวซีแลนด์'
เชน สเมลตซ์ (น.7)
สนามกีฬาอึมบอมเบลา เนลสไปรต์
24 มิถุนายน
สโลวาเกีย ธงชาติสโลวาเกีย
รอเบิร์ต วิตเตก (น.25,73),
คามิล โคปูเนก (น.89)
3-2 ธงชาติอิตาลี อิตาลี
อันโตนีโอ ดี นาตาเล (น.81),
ฟาบีโอ กวัลยาเรลลา (น.90+2)
สนามกีฬาเอลลิสพาร์ก โจฮันเนสเบิร์ก
ปารากวัย ธงชาติปารากวัย 0-0 ธงชาตินิวซีแลนด์ นิวซีแลนด์ สนามกีฬาปีเตอร์โมกาบา โพโลเควน

กลุ่ม G

ทีม
แข่ง ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย ต่าง แต้ม
ธงชาติบราซิล บราซิล 3 2 1 0 5 2 +3 7
ธงชาติโปรตุเกส โปรตุเกส 3 1 2 0 7 0 +7 5
ธงชาติโกตดิวัวร์ โกตดิวัวร์ 3 1 1 1 4 3 +1 4
ธงชาติเกาหลีเหนือ เกาหลีเหนือ 3 0 0 3 1 12 −11 0


15 มิถุนายน
โกตดิวัวร์ ธงชาติโกตดิวัวร์ 0-0 ธงชาติโปรตุเกส โปรตุเกส สนามกีฬาเนลสันมันเดลาเบย์ พอร์ตเอลิซาเบท
บราซิล ธงชาติบราซิล
ไมคอน (น.55),
เอลานู (น.72)
2-1 ธงชาติเกาหลีเหนือ เกาหลีเหนือ
จี ยุน-นัม (น.89)
สนามกีฬาเอลลิสพาร์ก โจฮันเนสเบิร์ก
20 มิถุนายน
บราซิล ธงชาติบราซิล
ลูอีส ฟาเบียนู (น.25, 50),
เอลานู (น.62)
3-1 ธงชาติโกตดิวัวร์ โกตดิวัวร์
ดีดีเย ดร็อกบา (น.79)
ซอกเกอร์ซิตี โจฮันเนสเบิร์ก
21 มิถุนายน
โปรตุเกส ธงชาติโปรตุเกส
ราอูล ไมเรลิช (น.29),
ซีเมา ซาบรอซา (น.53),
อูกู อาลไมดา (น.56),
เตียกู เมงดิช (น.60, 89),
ลีเอดซง (น.81),
คริสเตียโน โรนัลโด (น.87)
7-0 ธงชาติเกาหลีเหนือ เกาหลีเหนือ สนามกีฬากรีนพอยต์ เคปทาวน์
25 มิถุนายน
โปรตุเกส ธงชาติโปรตุเกส 0-0 ธงชาติบราซิล บราซิล สนามกีฬาโมเสสมาบีดา เดอร์บัน
เกาหลีเหนือ ธงชาติเกาหลีเหนือ 0-3 ธงชาติโกตดิวัวร์ โกตดิวัวร์
ยาย่า ตูเร (น.14),
กอฟี อึนดรี รอมาริก (น.20), ซาโลมง กาลู (น.82)
สนามกีฬาอึมบอมเบลา เนลสไปรต์

กลุ่ม H

ทีม
แข่ง ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย ต่าง แต้ม
ธงชาติสเปน สเปน 3 2 0 1 4 2 +2 6
ธงชาติชิลี ชิลี 3 2 0 1 3 2 +1 6
ธงชาติสวิตเซอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ 3 1 1 1 1 1 0 4
ธงชาติฮอนดูรัส ฮอนดูรัส 3 0 1 2 0 3 −3 1


16 มิถุนายน
ฮอนดูรัส ธงชาติฮอนดูรัส 0–1 ธงชาติชิลี ชิลี
ชอง โบเซชูร์ (น.34)
สนามกีฬาอึมบอมเบลา เนลสไปรต์
สเปน ธงชาติสเปน 0–1 ธงชาติสวิตเซอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์
เกลสัน เฟอร์นันเดส (น.52)
สนามกีฬาโมเสสมาบีดา เดอร์บัน
21 มิถุนายน
ชิลี ธงชาติชิลี
มาร์ก กอนซาเลซ (น.75)
1-0 ธงชาติสวิตเซอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ สนามกีฬาเนลสันมันเดลาเบย์, พอร์ทเอลิซาเบท
สเปน ธงชาติสเปน
ดาบิด บียา (น.17, 51)
2-0 ธงชาติฮอนดูรัส ฮอนดูรัส สนามกีฬาเอลลิสพาร์ก โจฮันเนสเบิร์ก
25 มิถุนายน
ชิลี ธงชาติชิลี
โรดรีโก มียาร์ (น.47)
1-2 ธงชาติสเปน สเปน
ดาบิด บียา (น.24),
อันเดรส อีเนียสตา (น.37)
สนามกีฬาลอฟตัสเวอร์สเฟลด์ พริทอเรีย
สวิตเซอร์แลนด์ ธงชาติสวิตเซอร์แลนด์ 0-0 ธงชาติฮอนดูรัส ฮอนดูรัส สนามกีฬาฟรีสเตต บลูมฟอนเทน

รอบแพ้คัดออก

รอบ 16 ทีม รอบก่อนรองชนะเลิศ รอบรองชนะเลิศ รอบชิงชนะเลิศ
                           
26 มิ.ย. – พอร์ตเอลิซาเบท            
  ธงชาติอุรุกวัย อุรุกวัย   2
2 ก.ค. – ซอกเกอร์ซิตี
  ธงชาติเกาหลีใต้ เกาหลีใต้  1  
  ธงชาติอุรุกวัย อุรุกวัย   1 (4)
26 มิ.ย. – รุสเทนเบิร์ก
    ธงชาติกานา กานา   1 (2)  
  ธงชาติสหรัฐ สหรัฐ   1
6 ก.ค. – เคปทาวน์
  ธงชาติกานา กานา   2  
  ธงชาติอุรุกวัย อุรุกวัย   2
28 มิ.ย. – เดอร์บัน
    ธงชาติเนเธอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์   3  
  ธงชาติเนเธอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์   2
2 ก.ค. – พอร์ตเอลิซาเบท
  ธงชาติสโลวาเกีย สโลวาเกีย   1  
  ธงชาติเนเธอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์   2
28 มิ.ย. – เอลลิสพาร์ก
    ธงชาติบราซิล บราซิล   1  
  ธงชาติบราซิล บราซิล   3
11 ก.ค. – ซอกเกอร์ซิตี
  ธงชาติชิลี ชิลี   0  
  ธงชาติเนเธอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์   0
27 มิ.ย. – ซอกเกอร์ซิตี
    ธงชาติสเปน สเปน   1
  ธงชาติอาร์เจนตินา อาร์เจนตินา   3
3 ก.ค. – เคปทาวน์
  ธงชาติเม็กซิโก เม็กซิโก   1  
  ธงชาติอาร์เจนตินา อาร์เจนตินา   0
27 มิ.ย. – บลูมฟอนเทน
    ธงชาติเยอรมนี เยอรมนี   4  
  ธงชาติเยอรมนี เยอรมนี   4
7 ก.ค. – เดอร์บัน
  ธงชาติอังกฤษ อังกฤษ   1  
  ธงชาติเยอรมนี เยอรมนี   0
29 มิ.ย. – พริทอเรีย
    ธงชาติสเปน สเปน   1   อันดับที่ 3
  ธงชาติปารากวัย ปารากวัย   0 (5)
3 ก.ค. – เอลลิสพาร์ก 10 ก.ค. – เนลสันมันเดลาเบย์
  ธงชาติญี่ปุ่น ญี่ปุ่น   0 (3)  
  ธงชาติปารากวัย ปารากวัย   0   ธงชาติอุรุกวัย อุรุกวัย   2
29 มิ.ย. – เคปทาวน์
    ธงชาติสเปน สเปน   1     ธงชาติเยอรมนี เยอรมนี   3
  ธงชาติสเปน สเปน   1
  ธงชาติโปรตุเกส โปรตุเกส   0  

รอบ 16 ทีมสุดท้าย

เวลามาตรฐานแอฟริกาใต้ (UTC+02) ตามด้วยเวลาประเทศไทย (UTC+07) ในวงเล็บ

อุรุกวัย ธงชาติอุรุกวัย2 – 1ธงชาติเกาหลีใต้ เกาหลีใต้
ลุยส์ อัลเบร์โต ซัวเรซ Goal 8'80' รายงาน ลี ชุง-ยอง Goal 68'
ผู้ชม: 30,597
ผู้ตัดสิน: วอล์ฟกัง ชตาร์ค (เยอรมนี)

สหรัฐ ธงชาติสหรัฐ1 – 2 (ต่อเวลาพิเศษ) ธงชาติกานา กานา
แลนดอน ดอโนแวน Goal 62' (ลูกโทษ) รายงาน เควิน-พรินซ์ โบอาเทง Goal 5'
อซาโมอาห์ กียาน Goal 93'
สนามกีฬารอยัลบาโฟเกง รุสเทนเบิร์ก
ผู้ชม: 34,976
ผู้ตัดสิน: วิกตอร์ คัสไซ (ฮังการี)



เนเธอร์แลนด์ ธงชาติเนเธอร์แลนด์2 – 1ธงชาติสโลวาเกีย สโลวาเกีย
อาร์เยิน โรบเบิน Goal 18'
เวสลีย์ สไนเดอร์ Goal 84'
รายงาน รอเบิร์ต วิตเตก Goal 90+4' (ลูกโทษ)
ผู้ชม: 61,962
ผู้ตัดสิน: อัลเบร์โต อุนเดียโน (สเปน)

บราซิล ธงชาติบราซิล3 – 0ธงชาติชิลี ชิลี
คูอัง ซิลเวรา ดูส ซังตูส Goal 35'
ลูอีส ฟาเบียนู Goal 38'
โรบินยู Goal 59'
รายงาน

ปารากวัย ธงชาติปารากวัย5 – 3 (ลูกโทษตัดสินธงชาติญี่ปุ่น ญี่ปุ่น
(เอดการ์ บาร์เรโต Goal
ลูกัส บาร์รีโอส Goal
กริสเตียน รีเบโรส Goal
เนลซอน บัลเดซ Goal
โอสการ์ การ์โดโซ Goal )
หลังต่อเวลาพิเศษ 0 – 0)
รายงาน
(ยะซุฮิโตะ เอ็นโด Goal
มะโกะโตะ ฮะเซะเบะ Goal
ยูอิจิ โคะมะโนะ (x)
เคซุเกะ ฮนดะ Goal )
ผู้ชม: 36,742
ผู้ตัดสิน: ฟรังค์ เดอ เบลคเคเรอ (เบลเยียม)

สเปน ธงชาติสเปน1 – 0ธงชาติโปรตุเกส โปรตุเกส
ดาบิด บียา Goal 63' รายงาน
ผู้ชม: 62,955
ผู้ตัดสิน: เอกตอร์ บัลดัสซี (อาร์เจนตินา)

รอบ 8 ทีมสุดท้าย

เนเธอร์แลนด์ ธงชาติเนเธอร์แลนด์2 – 1ธงชาติบราซิล บราซิล
เฟลีเป เมลู Goal 53' ทำเข้าประตูตัวเอง
ต่อมาฟีฟ่าเปลี่ยนผู้ทำประตูเป็นเวสลีย์ สไนเดอร์[12]
เวสลีย์ สไนเดอร์ Goal 68'
รายงาน โรบินยู Goal 10'
ผู้ชม: 40,186
ผู้ตัดสิน: ยูอิจิ นิชิมุระ (ญี่ปุ่น)

อุรุกวัย ธงชาติอุรุกวัย4 – 2 (ลูกโทษ 1 – 1)
ธงชาติกานา กานา
เดียโก ฟอร์ลัน Goal 55'
(เดียโก ฟอร์ลัน Goal
เมารีเซียว บิกโตรีโน Goal
อันเดรส สกอตตี Goal
มักซีมีเลียโน เปเรย์รา (x)
เซบัสเตียน อาเบรว Goal )
รายงาน ซุลลี มุนตารี Goal 45+2'
(อซาโมอาห์ กียาน Goal
สตีเฟน อัปเปียห์ Goal
จอห์น เมนซาห์ (x)
ดอมินิก เอดิเยียห์ (x) )
ผู้ชม: 84,017
ผู้ตัดสิน: โอลีการีอู เบงกีเรงซา (โปรตุเกส)

อาร์เจนตินา ธงชาติอาร์เจนตินา0 – 4ธงชาติเยอรมนี เยอรมนี
รายงาน โทมัส มึลเลอร์ Goal 3'
มิโรสลาฟ โคลเซ Goal 67'89'
อาร์เน ฟรีดริช Goal 74'
ผู้ชม: 64,100
ผู้ตัดสิน: รัฟชาน อีร์มาตอฟ (อุซเบกิสถาน)

ปารากวัย ธงชาติปารากวัย0 – 1ธงชาติสเปน สเปน
รายงาน ดาบิด บียา Goal 83'
ผู้ชม: 55,359
ผู้ตัดสิน: การ์โลส บาเตรส (กัวเตมาลา)

รอบรองชนะเลิศ

อุรุกวัย ธงชาติอุรุกวัย2 – 3ธงชาติเนเธอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์
เดียโก ฟอร์ลัน Goal 41'
มักซีมีเลียโน เปเรย์รา Goal 90+2'
รายงาน โจฟันนี ฟัน โบรงก์ฮอสต์ Goal 18'
เวสลีย์ สไนเดอร์ Goal 70'
อาร์เยิน โรบเบิน Goal 73'
ผู้ชม: 62,479
ผู้ตัดสิน: รัฟชาน อีร์มาตอฟ (อุซเบกิสถาน)

เยอรมนี ธงชาติเยอรมนี0 – 1ธงชาติสเปน สเปน
รายงาน การ์เลส ปูโยล Goal 73'
ผู้ชม: 60,960
ผู้ตัดสิน: วิกตอร์ คัสไซ (ฮังการี)

นัดชิงอันดับที่สาม

อุรุกวัย ธงชาติอุรุกวัย2 – 3ธงชาติเยอรมนี เยอรมนี
อดินสัน คาวานี Goal 28'
เดียโก ฟอร์ลัน Goal 51'
รายงาน โทมัส มึลเลอร์ Goal 19'
มาร์เซลล์ ยันเซิน Goal 56'
ซามี เคดีรา Goal 82'
ผู้ชม: 36,254
ผู้ตัดสิน: เบนีโต อาร์ชุนเดีย (เม็กซิโก)

นัดชิงชนะเลิศ

นัดชิงชนะเลิศมีขึ้นในวันที่ 11 กรกฎาคม ที่สนามซอกเกอร์ซิตี เมืองโจฮันเนสเบิร์ก ผลคือทีมชาติสเปนชนะทีมชาติเนเธอร์แลนด์ 1 ต่อ 0 ประตูในช่วงต่อเวลาพิเศษ โดยอันเดรส อีเนียสตาเป็นผู้ทำประตูให้กับสเปน[13] ส่งผลให้ทีมสเปนเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยแรก[14] ในการแข่งขันมีการทำฟาวล์อยู่หลายครั้ง รวมถึงลูกที่ไนเจล เด ย็องถีบยอดอกชาบี อลอนโซ่ ที่ยังถูกล้อเลียนและพูดถึงจนถึงทุกวันนี้ โดยเฉพาะจากทีมชาติเนเธอร์แลนด์[14] มีการให้ใบเหลืองทั้งหมด 14 ครั้ง และจอห์น ไฮทิงกาจากเนเธอร์แลนด์ต้องออกจากสนามเพราะได้รับใบเหลืองที่สอง แต่เนเธอร์แลนด์ก็มีโอกาสทำประตูหลายครั้ง โดยเฉพาะในนาทีที่ 60 ที่อาร์เยน ร็อบเบนได้บอลจากเวสลีย์ สไนเดอร์ จากนั้นก็เข้าชิงประตูแบบหนึ่งต่อหนึ่งกับอีเกร์ กาซียัส ผู้รักษาประตูของสเปน แต่กาซียัสใช้ขาสกัดออกไปได้ ในที่สุด อันเดรส อีเนียสตา กองกลางของสเปนก็ทำประตูได้ในนาทีที่ 116 ของช่วงต่อเวลาพิเศษด้วยการยิงกึ่งวอลเลย์ หลังจากเซสก์ ฟาเบรกัสผ่านบอลมาให้[15]

ผู้ทำประตู

5ประตู
4ประตู
3ประตู
2ประตู
1ประตู

เงินรางวัลและการจ่ายเงิน

เงินรางวัลตลอดทั้งการแข่งขันที่ได้รับการยืนยันจากฟีฟ่าคือ 420 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มจากในการแข่งขันในปี 2006 ร้อยละ 60 [16] ก่อนการแข่งขัน ทุกทีมที่เข้าแข่งขันจะได้รับเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับค่าใช้จ่ายในการเตรียมการ และเมื่อถึงการแข่งขันรอบแบ่งทีม จะได้รับเงิน 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากนั้นแต่ละทีมจะได้รับเงินดังต่อไปนี้

  • 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ – 16 ทีมสุดท้าย
  • 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ – 8 ทีมสุดท้าย
  • 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ – 4 ทีมสุดท้าย
  • 24 ล้านดอลลาร์สหรัฐ – รองชนะเลิศ
  • 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ – ผู้ชนะเลิศ

สิทธิการออกอากาศ

ฟีฟ่าได้ตกลงการซื้อขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดแก่สถานีโทรทัศน์จากทั่วโลก อาทิ บีบีซี, ซีซีทีวี, อัลญาซีรา, เอบีซี เป็นต้น สำหรับในประเทศไทย บริษัท อาร์เอส อินเตอร์เนชันแนล บรอดคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต จำกัด (อาร์เอสบีเอส) ในเครืออาร์เอส เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว โดยถือลิขสิทธิ์ตั้งแต่ปี 2006 และต่อเนื่องไปถึงปี 2014 อาร์เอสบีเอสมอบหมายให้สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3, สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7, สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ และสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ดำเนินการถ่ายทอดสดในระบบโทรทัศน์ปกติสลับหมุนเวียนครบทุกนัดโดยไม่มีโฆษณาคั่นระหว่างการแข่งขัน นับเป็นประเทศที่มีจำนวนสถานีโทรทัศน์แบบฟรีทีวีร่วมถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกครั้งนี้มากเป็นอันดับสองของโลก รองจากญี่ปุ่นที่มี 6 สถานี นอกจากนี้อาร์เอสบีเอสยังมอบลิขสิทธิ์ให้ทรูวิชั่นส์ดำเนินการถ่ายทอดสดในระบบโทรทัศน์ความละเอียดสูง ผ่านช่องทรูสปอร์ต เอชดี นับเป็นการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาในระบบนี้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย[17]

อ้างอิง

  1. "Golden Ball". FIFA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-06-15. สืบค้นเมื่อ 12 กรกฎาคม 2010.
  2. "Host nation of 2010 FIFA World Cup - South Africa". FIFA. 15 May 2004. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2004-05-28. สืบค้นเมื่อ 8 January 2006.
  3. 3.0 3.1 Luke Harding (12 June 2006). "Doubt over South Africa 2010". London: The Guardian. สืบค้นเมื่อ 29 August 2006.
  4. Jermaine Craig (3 July 2006). "Fifa denies SA may lose 2010 World Cup". The Star. สืบค้นเมื่อ 30 August 2006.
  5. "Beckenbauer issues 2010 warning". BBC Sport. 20 September 2006. สืบค้นเมื่อ 19 October 2006.
  6. Sean Yoong (8 May 2007). "FIFA says South Africa 'definitely' will host 2010 World Cup". Associated Press. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-06-09. สืบค้นเมื่อ 15 May 2007.
  7. "Leopard takes World Cup spotlight". BBC Sport. 22 September 2008. สืบค้นเมื่อ 23 September 2008.
  8. 8.0 8.1 "Meet Zakumi, the face of 2010". IOL. 2008-09-22. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-08-31. สืบค้นเมื่อ 2008-09-23.
  9. Waka Waka แปลว่าอะไร ? เก็บถาวร 2010-06-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนจากพันทิป
  10. "locations 2010 in Google Earth". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-06-02. สืบค้นเมื่อ 11 July 2007.
  11. "Referees". FIFA.com. Fédération Internationale de Football Association. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-02-10. สืบค้นเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2010.
  12. "สไนเดอร์"ขึ้นนำดาวซัลโวร่วม หลังฟีฟ่าเปลี่ยนให้เป็นคนยิงประตูแทน "เมโล" จากมติชนออนไลน์
  13. Stevenson, Jonathan (11 July 2010). "Netherlands 0–1 Spain". BBC Sport. British Broadcasting Corporation. สืบค้นเมื่อ 11 July 2010.
  14. 14.0 14.1 Dall, James (11 July 2010). "World domination for Spain". Sky Sports. BSkyB. สืบค้นเมื่อ 11 July 2010.
  15. "Spain beat Holland 1–0 to win World Cup". AFP. 11 July 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-07-14. สืบค้นเมื่อ 11 July 2010.
  16. "Record prize money on offer at World Cup finals only increases pain for Irish". London: The Times. 4 December 2009. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-12-09. สืบค้นเมื่อ 9 December 2009.
  17. ทรูวิชั่นส์เปิดช่องไฮเดฟิเนชัน สัมผัสฟุตบอลโลกแบบเอชดีครั้งแรกในโลก[ลิงก์เสีย]

แหล่งข้อมูลอื่น