อาณาจักรอักซุม

จักรวรรดิอักซุม

Mangiśta Aksum
መንግሥተ አኵስም
ค.ศ. 50 - ค.ศ. 940
ที่ตั้งของอักซุม
สถานะจักรวรรดิ
เมืองหลวงอักซุม
ภาษาทั่วไปภาษากีซ, ภาษากรีก
การปกครองราชาธิปไตย
จักรพรรดิ 
• ราว ค.ศ. 100
ซอสคาลีส (แรก)
• ราว ค.ศ. 940
Dil Na'od (สุดท้าย)
ประวัติศาสตร์ 
• ก่อตั้ง
ราว ค.ศ. 50
• พิชิตโดยกูดิต
ค.ศ. 940
พื้นที่
ค.ศ. 350[1]1,250,000 ตารางกิโลเมตร (480,000 ตารางไมล์)
ก่อนหน้า
ถัดไป
Dʿmt
ราชวงศ์ซากเว
มาคูเรีย
อโลเดีย

จักรวรรดิอักซุม (อังกฤษ: Aksumite Empire หรือ Axumite Empire) เป็นจักรวรรดิสำคัญทางการค้าขายที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของแอฟริกาที่เริ่มก่อตัวมาตั้งแต่ราวศตวรรษที่ 4 ก่อนคริสต์ศักราชและมารุ่งเรืองเอาเมื่อคริสต์ศักราชที่ 1 เมืองหลวงเก่าก่อตั้งทางตอนเหนือของเอธิโอเปีย อาณาจักรใช้คำว่า “เอธิโอเปีย” มาตั้งแต่คริสต์ศักราชที่ 4[2][3] และกล่าวกันว่าเป็นที่เก็บของพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์ (Ark of the Covenant) และที่กำเนิดของราชินีแห่งชีบา นอกจากนั้นอัคซุมยังเป็นจักรวรรดิสำคัญจักรวรรดิแรกที่หันมานับถือคริสต์ศาสนา

หลักฐานทางประวัติศาสตร์

อัคซุมได้รับการกล่าวถึงเป็นครั้งแรกในคริสต์ศักราชที่ 1 ใน “บันทึกเส้นทางการเดินเรือในทะเลอีริทเธรียน“ (Periplus Maris Erythraei) ซึ่งเป็นบันทึกเส้นทางการเดินเรือ (Periplus) ของกรีกที่บรรยายการเดินเรือและการค้าขายจากเมืองท่าของโรมันอียิปต์เช่น เบเรนีซ ตามชายฝั่งทะเลแดง และเมืองอื่นๆ ตามชายฝั่งแอฟริกาตะวันออกเฉียงเหนือและอินเดีย บันทึกกล่าวว่าอัคซุมเป็นตลาดสำคัญสำหรับงาช้างที่ส่งออกไปยังดินแดนต่างๆ ในโลกโบราณ และกล่าวถึงประมุขของอัคซุมว่ามีนามว่าซอสคาลีส (Zoscales) ผู้นอกจากจะครองอัคซุมแล้วก็ยังปกครองอ่าวสองอ่าวในทะเลแดง: อดูลิส (ไม่ไกลจากมาสซาวา) และอวาไลท์สAvalites (อัสซาบ) และกล่าวต่อไปเป็นผู้มีความคุ้นเคยกับวรรณคดีกรีก[4]

อ้างอิง

  1. Turchin, Peter and Jonathan M. Adams and Thomas D. Hall: "East-West Orientation of Historical Empires and Modern States", page 222. Journal of World-Systems Research, Vol. XII, No. II, 2006
  2. Stuart Munro-Hay, Aksum: An African Civilization of Late Antiquity. Edinburgh: University Press, 1991, p. 57.
  3. Paul B. Henze, Layers of Time: A History of Ethiopia, 2005.
  4. Periplus of the Erythreaean Sea เก็บถาวร 2014-08-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, chs. 4, 5

ดูเพิ่ม