การบินไทย
| |||||||
ก่อตั้ง | 29 มีนาคม พ.ศ. 2503 | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
เริ่มดำเนินงาน | 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2503 (63 ปี) | ||||||
AOC # | 03/2017[1] | ||||||
ท่าหลัก | ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานภูเก็ต | ||||||
เมืองสำคัญ | ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต ท่าอากาศยานนานาชาติอินช็อน ท่าอากาศยานลอนดอนฮีทโธรว์ | ||||||
สะสมไมล์ | รอยัลออร์คิดพลัส (ROP) | ||||||
พันธมิตรการบิน | สตาร์อัลไลแอนซ์ | ||||||
ขนาดฝูงบิน | 60 | ||||||
จุดหมาย | 51 | ||||||
การซื้อขาย | SET:THAI | ||||||
สำนักงานใหญ่ | เลขที่ 89 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร | ||||||
บุคลากรหลัก | ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ (ประธานคณะผู้บริหารแผนฯ) ชาย เอี่ยมศิริ (ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทฯ) | ||||||
รายได้ | 44,625 ล้านบาท (Q1 2566)[2] | ||||||
กำไร | 12,513 ล้านบาท (Q1 2566)[2] | ||||||
สินทรัพย์ | 208,444 ล้านบาท (Q1 2566)[2] | ||||||
พนักงาน | 14,000 (2565)[3] | ||||||
เว็บไซต์ | www.thaiairways.com |
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (อังกฤษ: Thai Airways International Public Company Limited; ชื่อย่อ: ไทย, THAI) เป็นบริษัทฯ มหาชน จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดำเนินธุรกิจการบินพาณิชย์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2503[4] โดยปฏิบัติการบินจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นหลัก ทั้งนี้ การบินไทยยังได้ร่วมก่อตั้งกลุ่มพันธมิตรการบิน สตาร์อัลไลแอนซ์ เคยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสายการบินนกแอร์[5] และเปิดตัวสายการบินลูก ไทยสมายล์ อีกด้วย นักบินดีเด่นธีรชาติ
ณ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2561 การบินไทยได้ให้บริการการบินไปยังท่าอากาศยานทั้งหมด 62 แห่งใน 32 ประเทศ และประเทศไทย แบ่งเป็นต่างประเทศ 59 สนามบิน ในประเทศไทย 4 สนามบิน ครอบคลุม 3 ทวีปทั่วโลก จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยฝูงบินกว่า 81 ลำ การบินไทยเป็นสายการบินลำดับต้นในเอเชีย ที่ทำการบินในเส้นทางกรุงเทพ–ลอนดอน (ท่าอากาศยานฮีทโธรว์)[6]
นอกจากนี้ การบินไทยได้รับรางวัลสายการบินยอดเยี่ยมของโลก ประจำ ปี 2019 จากสกายแทรกซ์ ได้แก่ รางวัลอันดับ 1 สายการบินที่ให้บริการสปาเลาจน์ ยอดเยี่ยมของโลก (World's Best Airline Lounge Spa 2019) รางวัลอันดับ 1 สายการบินที่มีพนักงานให้บริการ ยอดเยี่ยมของเอเชีย (Best Airline Staff in Asia 2019) และรางวัลอื่นๆ จากสกายแทรกซ์รวม 8 รางวัล อย่างไรก็ดี หลังขาดทุนสะสมมาหลายปี และสถานการณ์โควิด-19 ทำให้พ้นฐานะรัฐวิสาหกิจและเข้ารับการฟื้นฟูกิจการในปี 2563
ประวัติ
วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2502 รัฐบาลไทยดำเนินการให้ บริษัท เดินอากาศไทย จำกัด (อังกฤษ: Thai Airways Company Limited; ชื่อย่อ: บดท.; TAC) กับสายการบินสแกนดิเนเวียน (อังกฤษ: Scandinavian Airlines System; ชื่อย่อ: SAS) ทำสัญญาร่วมทุนระหว่างกัน ต่อมาในวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2503 บริษัท การบินไทย จำกัด ได้จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นด้วยทุนประเดิม 2 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจสายการบินระหว่างประเทศ มีเที่ยวบินปฐมฤกษ์ไปยังฮ่องกงเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ปีเดียวกัน
วันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2520 SAS คืนหุ้นให้เดินอากาศไทย หลังจากครบระยะเวลาตามสัญญาร่วมทุน แล้วโอนหุ้นให้แก่กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ตามมติคณะรัฐมนตรี
วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2531 เดินอากาศไทยซึ่งดำเนินธุรกิจสายการบินภายในประเทศได้รวมกิจการเข้ากับการบินไทย เพื่อให้สายการบินแห่งชาติเป็นหนึ่งเดียวตามมติคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ จากนั้นในวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2534 การบินไทยได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตามมติคณะรัฐมนตรี และจดทะเบียนแปลงสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัดเมื่อปี พ.ศ. 2537[7]
วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2540 การบินไทย ร่วมกับสายการบินลุฟต์ฮันซา, แอร์แคนาดา, เอสเอเอส, และ ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ ก่อตั้งสตาร์อัลไลแอนซ์ ซึ่งเป็นพันธมิตรการบินแห่งแรก
วันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2556 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้การบินไทย ดำเนินโครงการลงทุนจัดตั้งสายการบินไทยสมายล์ โดยจัดตั้ง บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด เป็นบริษัทย่อยในเครือการบินไทย และถือหุ้นทั้งหมด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สายการบินไทยสมายล์เป็นสายการบินภูมิภาค มีเครือข่ายการเชื่อมต่อผู้โดยสารทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้ เนื่องจากการบินไทยในขณะนั้น มีกระทรวงการคลังถือหุ้นร้อยละ 51.03 และมีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจ จึงทำให้บริษัทไทยสมายล์มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจด้วย[8]
วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 กระทรวงการคลังจำหน่ายหุ้นจนมีสัดส่วนถือหุ้นทั้งหมดเหลือร้อยละ 47.86 ทำให้บริษัทฯ หลุดพ้นสภาพการเป็นรัฐวิสาหกิจ[9] นอกจากนี้ ในวันที่ 25 พฤษภาคม คณะกรรมการบริษัทการบินไทยฯ ได้มีมติแต่งตั้งให้พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค, บุญทักษ์ หวังเจริญ, ไพรินทร์ ชูโชติถาวร และปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัทฯ แทนกรรมการเดิม[10] ไม่กี่วันถัดมา ไพรินทร์ลาออกเพราะเพิ่งพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีจึงไม่เหมาะสมต่อการรักษาธรรมาภิบาลของบริษัท และขัดต่อกฎหมายของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ[11]
ด้วยปัญหาขาดทุนสะสม และวิกฤตโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ร้องขอให้ศาล ได้พิจารณาฟื้นฟูกิจการ โดยวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2563 ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้การบินไทยดำเนินการฟื้นฟูกิจการตามที่บริษัทร้องขอ และได้เห็นสมควรให้บริษัท อีวาย คอร์ปอเรทแอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด รวมถึงกรรมการบริษัทอีก 6 คน ประกอบด้วย พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน, นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค, นายบุญทักษ์ หวังเจริญ, นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ และชาญศิลป์ ตรีนุชกร เป็นผู้ดำเนินการฟื้นฟูกิจการตามที่การบินไทยเสนอมา
วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2564 ศาลล้มละลายกลางได้กำหนดนัดฟังคำสั่งศาลในการพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการการบินไทย ซึ่งหลังจากที่ศาลล้มละลายกลางได้รับคำคัดค้านแผนฟื้นฟูกิจการของเจ้าหนี้จำนวน 2 ฉบับ คำชี้แจงของผู้ทำแผน ตลอดจนความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในประเด็นต่าง ๆ แล้ว ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนฟื้นฟูกิจการและแผนที่แก้ไขตามมติของที่ประชุมเจ้าหนี้ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 ซึ่งมีผลให้ผู้บริหารแผนที่ถูกเสนอชื่อตามแผนฟื้นฟูกิจการและแผนที่แก้ไข กล่าวคือ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ นายพรชัย ฐีระเวช นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ นายไกรสร บารมีอวยชัย และ นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร เป็นผู้บริหารแผนซึ่งจะมีอำนาจหน้าที่ในการบริหารธุรกิจของบริษัทฯ และดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการต่อไป [12]
วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 คณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการได้ยื่นคำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ [13] โดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้มีคำสั่งให้กำหนดวันนัดประชุมเจ้าหนี้ในวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2565 ซึ่งมีเจ้าหนี้ที่มีจำนวนหนี้รวมกันร้อยละ 78.59 ของจำนวนหนี้ของเจ้าหนี้ทั้งหมดที่เข้าร่วมประชุมและร่วมออกเสียงยอมรับการแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการดังกล่าว [14] และในวันที่ 20 ตุลาคม 2565 ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งเห็นชอบด้วยข้อเสนอขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทการบินไทยฯ [15]
วันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2565 บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งการพ้นจากตำแหน่งของผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการบริษัทฯ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม ดังนี้ 1. นายไกรสร บารมีอวยชัย 2. นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ [16] และจนถึงทุกวันนี้การบินไทย เริ่มต่อสภาพจากเอกชน เป็นรัฐวิสาหกิจ ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป
วันที่ 17 พฤษภาคม 2566 คณะกรรมการเจ้าหนี้ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้มีมติเห็นชอบการปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจกลุ่มธุรกิจการบินของการบินไทยตามแนวทางที่คณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการและฝ่ายบริหารนำเสนอ [17]
ข้อมูลบริษัท
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
- จำนวนผู้ถือหุ้นทั้งหมด: 111,697 ข้อมูล ณ วันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2563[18]
ลำดับที่ | รายชื่อผู้ถือหุ้น | จำนวนหุ้น | % หุ้น |
---|---|---|---|
1 | กระทรวงการคลัง | 1,044,737,191 | 47.86 |
2 | กองทุนรวม วายุภักษ์หนึ่ง โดย บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) | 186,513,817 | 8.54 |
3 | กองทุนรวม วายุภักษ์หนึ่ง โดย บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) | 186,513,817 | 8.54 |
4 | บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด | 56,069,382 | 2.57 |
5 | ธนาคาร ออมสิน | 46,409,885 | 2.13 |
6 | นาย ทรงศักดิ์ จิตเจือจุน | 42,159,900 | 1.93 |
7 | SOUTH EAST ASIA UK (TYPE C) NOMINEES LIMITED | 23,195,271 | 1.06 |
8 | นาย ธนาธิป วิวัฒนกิจเจริญ | 20,000,900 | 0.92 |
9 | นาย วิชัย คณาธนะวนิชย์ | 13,225,500 | 0.61 |
สำนักงาน
สำนักงานการบินไทยในกรุงเทพมหานครแห่งแรก เป็นห้องแถวสามชั้น เลขที่ 1101 ริมถนนเจริญกรุง ซึ่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามเยื้องกับไปรษณีย์กลางบางรัก [19] อันเป็นศูนย์รวมธุรกิจในยุคนั้น เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ซึ่งส่วนมากเป็นนักธุรกิจและชาวต่างชาติ ต่อมาในปี พ.ศ. 2513 การบินไทยเช่าอาคารเลขที่ 1043 ถนนพหลโยธิน ติดกับซอยลือชา (ซอยพหลโยธิน 3) บริเวณสนามเป้าเป็นสำนักงาน[20] โดยเมื่อปี พ.ศ. 2522 การบินไทยจัดซื้อที่ดินริมถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ และก่อสร้างอาคารหลังแรกขนาด 5 ชั้น ซึ่งเริ่มใช้ปฏิบัติงานเมื่อปี พ.ศ. 2523[21] หลังจากนั้นจึงมีโครงการสร้างอาคารถาวร จนกระทั่งแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2532 ก่อนหน้านี้ การบินไทยเคยมีสำนักงานบริเวณถนนหลานหลวง ใกล้กับแยกผ่านฟ้าลีลาศ ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่เดิมของเดินอากาศไทย ก่อนการควบรวมกิจการ ต่อมาในปี พ.ศ. 2564 การบินไทยได้ประกาศขายอาคารดังกล่าวพร้อมกับอาคารถนนสีลม อาคารรักคุณเท่าฟ้า ดอนเมือง และอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัดอีก 7 แห่ง[22]
เมื่อปี พ.ศ. 2506 การบินไทยเปิดสำนักงานสาขาในต่างประเทศที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เป็นแห่งแรก ในปี พ.ศ. 2553 สำนักงานสาขาในต่างประเทศของการบินไทย มีทั้งหมด 76 สาขาใน 38 ประเทศ ครอบคลุมทั้ง 5 ทวีป ส่วนศูนย์ซ่อมเครื่องบินของการบินไทย มีอยู่สองแห่งคือ ภายในบริเวณท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพมหานคร และภายในบริเวณท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา จังหวัดระยอง
ผลประกอบการ
ในปี พ.ศ. 2556 ถึง พ.ศ. 2558 การบินไทยมีผลประกอบการขาดทุน การบินไทยมีผลประกอบการกำไรอีกครั้งในปี พ.ศ. 2559 โดยมีกำไรสุทธิ 15.14 ล้านบาท[23]
2553 | 2554 | 2555 | 2556 | 2557 | 2558 | 2559 | 2560 | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
รายได้ (ล้านบาท) | 184,270 | 194,342 | 216,743 | 207,711 | 203,889 | 192,591 | 181,446 | 191,946 |
กำไร/ขาดทุน สุทธิ (ล้านบาท) | 14,744 | −10,197 | 6,229 | −12,047 | −15,612 | −13,068 | 15 | −2,072 |
จำนวนพนักงาน (คน) | 25,884 | 25,848 | 25,412 | 25,323 | 24,952 | 22,864 | 21,998 | 22,370 |
จำนวนผู้โดยสาร (ล้านคน) | 18.2 | 18.4 | 20.6 | 21.5 | 19.1 | 21.2 | 22.2 | 24.6 |
อัตราเปลี่ยนแปลงของผู้โดยสาร | 1.3% | 12.1% | 4.3% | 11.2% | 11.% | 4.7% | 10.3% | |
อัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (%) | 73.6 | 70.4 | 76.6 | 74.1 | 68.9 | 72.9 | 73.4 | 79.2 |
จำนวนอากาศยาน (ณ สิ้นปี) | 90 | 89 | 95 | 100 | 102 | 95 | 95 | 100 |
อ้างอิง | [24] | [24] | [25] | [26][25] | [26][25] |
บริษัทร่วมทุน
การบินไทยเคยถือหุ้นอยู่ในสายการบินนกแอร์อยู่ 49% นับเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับหนึ่ง[27] ในปี พ.ศ. 2564 สัดส่วนหุ้นนกแอร์ที่ถือโดยการบินไทยลดลงจากเดิมเหลือ 8.91% [28]
นอกจากนั้นบริษัทการบินไทยยังมีบริษัทย่อยดังต่อไปนี้[29]
- บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 100
- บริษัท ไทย-อะมาดิอุส เซาท์อีสต์เอเชีย จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 55
- บริษัท วิงสแปน เซอร์วิสเซส จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 49
- บริษัท ไทยไฟลท์เทรนนิ่ง จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 49
- บริษัท ทัวร์เอื้องหลวง จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 49
- บริษัท ดอนเมือง อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์พอร์ต โฮเต็ล จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 40
- บริษัท ครัวการบินภูเก็ต จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 30
- บริษัท โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 30
- บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นร้อยละ 7.06
- บริษัท เทรดสยาม จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 3.5
- บริษัท สหโรงแรมไทยและการท่องเที่ยว จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 1.25
- บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 0.90
- บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 0.00026
การบินไทยคาร์โก
บริษัทการบินไทยเคยทำกิจการขนส่งเฉพาะสินค้า โดยมีเครื่องบินขนส่งสินค้าเป็นของบริษัทเองในช่วง ปี พ.ศ. 2522 ถึง พ.ศ. 2526 ด้วยเครื่องบิน Douglas DC-8-62F ทะเบียน HS-TGS
และในระหว่างวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 27 มีนาคม พ.ศ. 2558 ทำการบินโดย B747-400BCF ทะเบียน HS-TGH และ HS-THJ เส้นทางบินได้แก่ทางกรุงเทพแวะเชนไนไปอัมสเตอร์ดัม TG898 กรุงเทพแวะไฮเดอราบัดสิ้นสุดที่แฟรงเฟิร์ต TG890 กรุงเทพแวะไฮเดอราบัดสิ้นสุดที่แฟรงเฟิร์ต TG894 กรุงเทพไปซิดนีย์ TG865 กรุงเทพไปนะริตะ TG862 นะริตะไปเทเปกลับกรุงเทพ TG863 เส้นทางจาก แฟรงเฟิร์ต แวะ เซี่ยเหมิน สิ้นสุดที่ กรุงเทพ TG897[30]
นอกเหนือจากนั้นเป็นเครื่องบินที่บริษัทเช่าทำการบินโดยสายการบินอื่น อีก 3 ลำ ได้แก่เครื่องบินทะเบียน N552MC ใช้บินระหว่าง พ.ศ. 2539 ถึง พ.ศ. 2542 เครื่องบินทะเบียน N774SA N775SA ใช้ในปี พ.ศ. 2553 ถึง พ.ศ. 2554 รวมการบินไทยเคยทำการบินเฉพาะขนส่งสินค้าทั้งหมด 6 ลำ
ครัวการบินไทย
ครัวการบินไทย (อังกฤษ: THAI Catering Service) เริ่มดำเนินกิจการเมื่อวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2503 โดยเช่าโรงซ่อมบำรุงรักษาเครื่องบิน และอาคารเล็กอย่างละหนึ่งหลัง ภายในบริเวณท่าอากาศยานกรุงเทพ ที่ดอนเมืองเป็นแห่งแรก เพื่อทำการผลิตและให้บริการอาหารชนิดต่าง ๆ สำหรับสายการบินไทย และสายการบินอื่นอีกมากกว่า 50 สายการบิน[31]
สำนักงานของครัวการบินไทย มีสองแห่งคือ อาคารขนาดใหญ่บนพื้นที่ 90,000 ตารางเมตร ภายในบริเวณท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ซึ่งใช้เทคโนโลยีการผลิตอันทันสมัย เพื่อผลิตอาหารสำหรับรองรับในส่วนของสายการบินไทย และคำสั่งจากลูกค้าทุกสายการบิน โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตอาหารจำนวนมากกว่า 87,000 มื้อต่อวัน ส่วนสำนักงานอีกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ภายในบริเวณท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อสนับสนุนการกลับมาเปิดดำเนินการบินอีกครั้ง ตลอดจนรองรับความต้องการของเที่ยวบินภายในประเทศ รวมทั้งกิจการภาคพื้นดินอย่างการผลิตขนมอบ (Bakery) และการจัดเลี้ยงต่าง ๆ [31] โดยมีศักยภาพผลิตอาหารได้สูงสุด 49,000 มื้อต่อวัน
ครัวการบินไทยมีผลงานที่สำคัญคือ เป็นผู้ดำเนินการผลิตและให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม แก่นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 เมื่อปี พ.ศ. 2541, เฟสปิกเกมส์ ครั้งที่ 7 เมื่อปี พ.ศ. 2542 และกีฬามหาวิทยาลัยโลกฤดูร้อน ครั้งที่ 24 เมื่อปี พ.ศ. 2550 ที่กรุงเทพมหานคร รวมถึงในงานไอฉิเอ็กซโป (Aichi Expo) เมื่อปี พ.ศ. 2548 ที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย[31]
ภัตตาคารเยลโล ออร์คิด
ภัตตาคารเยลโล ออร์คิด (อังกฤษ: Yellow Orchid Restaurant) เปิดให้บริการเป็นแห่งแรก ภายในท่าอากาศยานดอนเมือง เมื่อปี พ.ศ. 2515 และเริ่มให้บริการสาขาแรก ภายในท่าอากาศยานเชียงใหม่ เมื่อปี พ.ศ. 2529
พัฟแอนด์พาย
ร้านขนมอบพัฟแอนด์พาย (อังกฤษ: Puff & Pie Bakery House) ก่อตั้งขึ้นราวปลายปี พ.ศ. 2538 โดยครัวการบินไทย และเริ่มเปิดทำการเป็นแห่งแรก เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540 บริเวณหน้าอาคารรักคุณเท่าฟ้า ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อสร้างรายได้เพิ่ม ตลอดจนบริหารบุคลากรและอุปกรณ์ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เนื่องจากครัวการบินไทยต้องสูญเสียรายได้ จากการบริการอาหารบนเครื่องบิน (Uplift) เนื่องจาก บมจ.การบินไทย มีนโยบายงดให้บริการอาหารบนเที่ยวบินที่ไม่ตรงเวลาอาหาร ดังนั้นจึงทดลองเปิดขายขนมชนิดต่าง ๆ ปรากฏว่าได้รับความนิยมจากลูกค้าอย่างรวดเร็ว เป็นผลให้ครัวการบินไทยมีรายได้เพิ่ม เกินกว่าเป้าหมายที่กำหนด จึงเพิ่มความสำคัญอย่างจริงจัง โดยมีเป้าหมายในการสร้างรายได้จากกิจการพัฟแอนด์พาย ให้เป็นรายได้หลักอีกทางหนึ่ง นอกเหนือจากงานจัดเลี้ยง รวมถึงจากการผลิตและบริการอาหารบนเที่ยวบิน
ครัวการบินไทยจึงดำเนินการขยายสาขาของร้านพัฟแอนด์พาย โดยแผนระยะแรก จะเปิดขายในพื้นที่ของ บมจ.การบินไทยก่อน เพื่อเป็นสวัสดิการของพนักงาน ทว่าต่อมาได้รับการเรียกร้องจากลูกค้าภายนอก ให้ขยายสาขาเพิ่มขึ้นในที่ต่าง ๆ เพื่อความสามารถในการให้บริการอย่างทั่วถึง ครัวการบินไทยจึงพิจารณาขยายสาขา ในสถานที่ราชการและรัฐวิสาหกิจอื่น ตลอดจนร้านพัฟแอนด์พายเฉพาะกิจ ภายในศูนย์การค้าและงานแสดงสินค้าต่าง ๆ ซึ่งได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นอย่างมากและต่อเนื่อง ครัวการบินไทยจึงพิจารณาขยายตลาด โดยเปิดโครงการ Puff & Pie Whole Sales โดยให้บุคคลภายนอกที่สนใจกิจการ เข้าร่วมประกอบธุรกิจในชื่อ "Puff & Pie Supreme Bakery Delight" ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2550 เป็นต้นมา
สำหรับรูปแบบของร้านพัฟแอนด์พายส่วนมาก จะสร้างเป็นร้านค้าขนาดเล็ก (Kiosk) มีหลังคาผ้าใบสีขาวและเหลืองเป็นสัญลักษณ์ จำหน่ายอาหารไทย อาหารจีน และอาหารฝรั่งชนิดปรุงสำเร็จ ในชื่อผลิตภัณฑ์ซื้อกลับบ้าน (Take Home) รวมทั้งผลิตภัณฑ์เอื้องหลวง ที่ฝ่ายผลิตและบริการภาคพื้นเป็นผู้ผลิต วางจำหน่ายร่วมด้วย[32]
จุดหมายปลายทาง
เส้นทางบินที่ไกลที่สุด 15 อันดับแรกนับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2549 ที่เปิดใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้แก่
- ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไปกลับ ท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ. เคนเนดี TG790/TG791
- ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไปกลับ ท่าอากาศยานนานาชาติลอสแอนเจลิส TG794/TG795
- ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไปกลับ ท่าอากาศยานนานาชาติมาดริดบาราคัส TG948/TG949
- ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ไปกลับ ท่าอากาศยานลอนดอนฮีทโธรว์ TG918/TG919
- ท่าอากาศยานนานาชาติไต้หวันเถา-ยฺเหวียน ไปกลับ ซีแอตเทิล TG762/TG763 (เส้นทางนี้ทำการบินก่อนปี พ.ศ. 2549)
- ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ไปกลับ ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส-ชาร์ล เดอ โกลTG938/939
- ท่าอากาศยานนานาชาติอินช็อน ไปกลับ ท่าอากาศยานนานาชาติลอสแอนเจลิส TG692/693
- ท่าอากาศยานนานาชาติคิมโพไปกลับท่าอากาศยานนานาชาติลอสแอนเจลิส)TG770/TG771[33] (เส้นทางนี้ทำการบินก่อนปี พ.ศ. 2549)
- ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไปกลับ ท่าอากาศยานลอนดอนฮีทโธรว์ TG910/TG911
- ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไปกลับ ท่าอากาศยานนานาชาติออกแลนด์ TG491/492
- ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไปกลับ ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส-ชาร์ล เดอ โกลTG932/933
- ท่าอากาศยานซือริช ทำการบินตรงมา ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตTG937
- ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ไปกลับ ท่าอากาศยานแฟรงก์เฟิร์ตTG926/927
- ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไปกลับ ท่าอากาศยานมิลาโนมัลเปนซาTG940/941
- ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไปกลับ ท่าอากาศยานอัมสเตอร์ดัมสคิปโฮลTG898/899
โดยทุกเส้นทางทำการบินมากกว่า 9,000 กิโลเมตร
ข้อตกลงการทำการบินร่วม
การบินไทยทำข้อตกลงการทำการบินร่วม กับสายการบินต่าง ๆ ดังต่อไปนี้:
- แอโรสวิตแอร์ไลน์ระหว่างประเทศยูเครน (กรุงเทพมหานคร-เคียฟ)
- แอร์แคนาดา (SA) ระหว่างประเทศแคนาดา (แวนคูเวอร์-โตเกียว/ฮ่องกง) (โทรอนโต-แฟรงก์เฟิร์ต/ลอนดอน/ซูริก/ฮ่องกง/โตเกียว) (มอนทรีออล-แฟรงก์เฟิร์ต/ลอนดอน)
- แอร์มาดากัสการ์ ระหว่างประเทศไทยกับเรอูว์นียง (กรุงเทพมหานคร-แซง-เดอนี เรอูว์นียง) ระหว่างประเทศมาดากัสการ์กับเรอูว์นียง (อันตานานารีโว-แซงเดอนี เรอูว์นียง)
- ออลนิปปอนแอร์เวย์ (SA) ภายในประเทศญี่ปุ่น (โอซะกะ-ซัปโปะโระ+) (ฟุกุโอะกะ/โอซะกะ-โตเกียวฮะเนะดะ-นีงาตะ), (โตเกียวนะริตะ-ซัปโปะโระ) ระหว่างญี่ปุ่นกับอเมริกา (โตเกียวนะริตะ-นิวยอร์ก/วอชิงตัน/ชิคาโก/แซนแฟรนซิสโก/ลอสแอนเจลิส) ระหว่างประเทศไทยกับญี่ปุ่น (กรุงเทพ-โตเกียวฮะเนะดะ)
- แอร์นิปปอนเน็ทเวิร์ก (SA) ภายในประเทศญี่ปุ่น (ซัปโปะโระ-โอซะกะ+) (นะโงะยะ-เซ็นได/ฟุกุโอะกะ) (โอซะกะ-โอะกินะวะ)
- แอร์นิวซีแลนด์ (SA) ภายในประเทศนิวซีแลนด์ (ออกแลนด์-เวลลิงตัน/ไครสต์เชิร์ช) ระหว่างประเทศนิวซีแลนด์ (ออกแลนด์-บริสเบน/เมลเบิร์น/ฮ่องกง) (ไครสต์เชิร์ช-บริสเบน/ซิดนีย์/เมลเบิร์น) ระหว่างประเทศออสเตรเลีย (ซิดนีย์-เวลลิงตัน/ออกแลนด์) (เพิร์ท-ออกแลนด์+)
- แอร์เจแปน (SA) ระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐอเมริกา (โตเกียวนะริตะ-โฮโนลูลู) ระหว่างกรุงเทพกับญี่ปุ่น (กรุงเทพ-โตเกียวนะริตะ)
- เอเชียนาแอร์ไลน์ (SA) รหว่างประเทศเกาหลีใต้ (กรุงเทพมหานคร-โซล, ภูเก็ต-โซล) ภายในประเทศเกาหลี (ปูซาน-โซล)
- ออสเตรียนแอร์ไลน์ (SA) ระหว่างประเทศออสเตรีย (เวียนนา-ซูริก/แฟรงก์เฟิร์ต/กรุงเทพ)
- บางกอกแอร์เวย์ ระหว่างประเทศมัลดีฟส์ (กรุงเทพมหานคร-มาเล)
- บีเอ็มไอ (SA) ภายในประเทศอังกฤษ (ลอนดอน-เอดิบะระ/กลาสโกว์/แมนเชสเตอร์ /เบลฟาสต์) ระหว่างประเทศอังกฤษ (ลอนดอน-ดับลิน)
- บูลวัน (SA) ระหว่างประเทศฟินแลนด์ (เฮลซิงกิ-ซูริก/สต็อกโฮล์ม/โคเปนเฮเกน) ระหว่างประเทศสวีเดน (ตุรกุ-สต็อกโฮล์ม) (สต็อกโฮล์ม-ตัมเปเร/วาซา)
- ไชน่าแอร์ไลน์ ระหว่างประเทศจีน (กรุงเทพมหานคร-เกาซง)
- ไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์ ระหว่างประเทศจีน (กรุงเทพมหานคร-เซี่ยงไฮ้)
- ไชนาเซาเทิร์นแอร์ไลน์ ระหว่างประเทศจีน (กรุงเทพมหานคร-ปักกิ่ง)
- อียิปต์แอร์ (SA) ระหว่างประเทศอียิปต์ (กรุงเทพมหานคร-ไคโร)
- เอลอัล อิสราเอลแอร์ไลน์ ระหว่างประเทศอิสราเอล (กรุงเทพมหานคร-เทลอาวีฟ ยาโฟ)
- เอมิเรตส์ ระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (กรุงเทพมหานคร-ดูไบ)
- กัลฟ์แอร์ ระหว่างประเทศบาห์เรน (กรุงเทพมหานคร-บาห์เรน)
- เจแปนแอร์ไลน์ (OW) ภายในประเทศญี่ปุ่น (โอะกินะวะ-นะโงะยะ/โอซะกะ) (นะโงะยะ/โอซะกะ/ฟุกุโอะกะ-ซัปโปะโระ) ระหว่างประเทศญี่ปุ่น (กรุงเทพมหานคร-โอซากา)
- เจแปนทรานสโอเชียนแอร์ (OW) ภายในประเทศญี่ปุ่น (โอะกินะวะ-โอซะกะ+)
- ลุฟต์ฮันซา (SA) ภายในประเทศจากแฟรงก์เฟิร์ต (แฟรงก์เฟิร์ต-เบอร์ลิน/ดัสเซลดอร์ฟ/ฮัมเบิร์ก/ฮันโนเฟอร์/มิวนิก/นูเรมเบิร์ก/ชตุทท์การ์ท)
- ระหว่างประเทศจากแฟรงก์เฟิร์ต (แฟรงก์เฟิร์ต-อัมสเตอร์ดัม/บูดาเปสต์/บรัสเซลส์/ปราก/เวียนนา/วอร์ซอ/เจนีวา/ลิสบอน/บาร์เซโลนา)
- ระหว่างแฟรงก์เฟิร์ตกับอเมริกา (แฟรงก์เฟิร์ต-แอตแลนตา/ชิคาโก/แดลลัส-ฟอร์ตเวิร์ธ/ไมอามี/นิวยอร์ก/วอชิงตัน)
- ภายในประเทศจากมิวนิก (มิวนิก-เบอร์ลิน/โคโลญ/ดัสเซลดอร์ฟ/ฮัมเบิร์ก/ฮันโนเฟอร์)
- ระหว่างประเทศจากมิวนิก (มิวนิก-อัมสเตอร์ดัม/บรัสเซลส์/บูดาเปสต์)
- มาเลเซียแอร์ไลน์ ระหว่างประเทศมาเลเซีย (กัวลาลัมเปอร์-กรุงเทพมหานคร/ภูเก็ต)
- นกแอร์ ภายในประเทศไทย (ดอนเมือง-แม่ฮ่องสอน)
- ปากีสถานอินเตอร์เนชันแนลแอร์ไลน์ ระหว่างประเทศปากีสถาน (กรุงเทพมหานคร-อิสลามาบาด)
- รอยัลบรูไนแอร์ไลน์ ระหว่างประเทศบรูไน (กรุงเทพมหานคร-บันดาร์เซอรีเบอกาวัน)
- SAS (SA) ระหว่างประเทศนอร์เวย์ (สตาวังเงร์-โคเปนเฮเกน) ภายในประเทศนอร์เวย์ (ออสโล-เบอร์เกน/เฮาเกซุนต์/คริสเตียนซานต์/สตาวังเงร์/ทรอนด์เฮม)
- ระหว่างประเทศเดนมาร์ก (โคเปนเฮเกน-กอเทนเบิร์ก/ออสโล/เบอร์เกน/คริสเตียนซานต์/แฟรงก์เฟิร์ต/อัมสเตอร์ดัม/แมนเชสเตอร์/ฮัมเบิร์ก) ภายในประเทศเดนมาร์ก (โคเปนเฮเกน-ออฮุส/อัลบอร์ก)
- ระหว่างประเทศสวีเดน (สต็อกโฮล์ม-ทรอนด์เฮม/ออสโล/อัมสเตอร์ดัม/โคเปนเฮเกน/แฟรงก์เฟิร์ต/ลอนดอน/แมนเชสเตอร์) ภายในประเทศสวีเดน (สต็อกโฮล์ม-กอเทนเบิร์ก/คาลมาร์/อูเมียว/ลูเลียว)
- สเปนแอร์ (SA) ภายในประเทศสเปน (มาดริด-ปาลมาส เดอ มายอร์กา) (บิลบาโอ-มาดริด) (วาเลนเซีย-มาดริด+)
- สวิสอินเตอร์เนชันแนลแอร์ไลน์ (SA) ระหว่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (กรุงเทพมหานคร-ซูริก)
- เตอร์กิชแอร์ไลน์ (SA) กรุงเทพฯ-อิสตันบูล
- ตัปปูร์ตูกัล (SA) ระหว่างประเทศโปรตุเกส (ลิสบอน-ซูริก/แฟรงก์เฟิร์ต/มาดริด)
- ไทโรเลี่ยน แอร์เวย์ (SA) ระหว่างประเทศออสเตรีย (แฟรงก์เฟิร์ต-ซาลซ์บูร์ก) (เวียนนา-มิวนิก) ภายในประเทศออสเตรีย (เวียนนา-กราซ/อินส์บรุค/ลินซ์/ซาลซ์บูร์ก/คลาเกนฟูร์ท)
- ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ (SA) ภายในสหรัฐอเมริกา (ลอสแอนเจลิส-เดนเวอร์ /นิวยอร์ก/ ซานฟานซิสโก /วอชิงตัน/ชิคาโก) ระหว่างสหรัฐอเมริกา (ชิคาโก-ลอนดอน, โตเกียว-ชิคาโก/แซนแฟรนซิสโก)
(SA) = Star Alliance Member (OW) = One World member + = มีเฉพาะขาไปเท่านั้น
ภาพลักษณ์
การบินไทยเป็นหนึ่งในไม่กี่สายการบินที่มีระเบียบการเปลี่ยนเครื่องแบบในตลอดการเดินทาง โดยพนักงานต้อนรับหญิงประจำเที่ยวบินระหว่างประเทศจะต้องเปลี่ยนเครื่องแบบจากชุดสูทสีม่วง (สำหรับแต่งกายนอกห้องโดยสาร) เป็นชุดไทยประเพณี (เห็นได้จากโฆษณาของสายการบิน) ขณะต้อนรับผู้โดยสารที่ขึ้นเครื่องบิน และต้องเปลี่ยนกลับเป็นชุดสูทเมื่อนำผู้โดยสารออกจากเครื่องบิน เว็บไซต์อาสค์เมนจัดอันดับ สุดยอดแอร์โฮสเตทสาวที่ฮอทที่สุด 10 สายการบินทั่วโลก โดยการบินไทยได้อันดับที่ 7 เว็บไซต์อาร์คเมนส์ ให้เหตุผลว่า พนักงานต้อนรับหญิงบนเครื่องบินดูดีในชุดเครื่องแบบโทนสีม่วง-ทอง รูปร่างหน้าตาสวยงาม การบริการระหว่างการเดินทางดี นอกจากนี้ยังยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นมิตรและมารยาทงามอีกด้วย นอกจากนี้ การบินไทยยังถูกจัดให้เป็นสายการบินที่ดีที่สุด ลำดับ 5 ของโลก[34] การบินไทยเป็นสายการบินที่คำนึงถึงสุขภาพผโดยสารเป็นสำคัญ โดยที่ผ่านมาการบินไทยได้นำเครื่องลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานนะฮะ[35]
อย่างไรก็ตามเป็นที่ยอมรับ[36] ว่าการบินไทยมีการแทรกแซงจากผู้มีอำนาจทางการเมืองโดยข้อเท็จจริงการบินไทยมีกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ 17 คน (นับถึงปี พ.ศ. 2559) [37]
ตราสัญลักษณ์
เมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2503 การบินไทยเปิดตัวตราสัญลักษณ์แบบแรก เป็นภาพตุ๊กตารำไทยซึ่งออกแบบโดย หม่อมเจ้าไกรสิงห์ วุฒิไชย นักออกแบบที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้น ซึ่งเป็นผู้ออกเครื่องแบบพนักงานต้อนรับชุดแรกด้วย ต่อมาในปี พ.ศ. 2515 การบินไทยจัดจ้างวอลเตอร์ แลนเดอร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ (อังกฤษ: Walter Landor & Associates) บริษัทโฆษณาระดับโลก ให้ออกแบบตราสัญลักษณ์ใหม่[38]
จากนั้นราวปลายปี พ.ศ. 2517 คณะผู้แทนการบินไทยเดินทางไปพิจารณาเลือกแบบ ซึ่งคณะผู้ออกแบบนำเสนอกว่าสิบภาพ โดยภาพดอกบัวโดดเด่นที่สุด เนื่องจากมีสีสันกลมกลืนสดใส แต่มีผู้แทนคนหนึ่งเห็นว่า การบินไทยใช้ชื่อบริการว่าเอื้องหลวง หากใช้สัญลักษณ์ดอกบัวก็เป็นการขัดกัน จึงเสนอแนะแก่คณะผู้ออกแบบไว้[38] ซึ่งต่อมาในวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2520 เดินอากาศไทยนำภาพดอกบัวดังกล่าว มาใช้เป็นตราสัญลักษณ์ใหม่ แทนภาพช้างเอราวัณสามเศียรอยู่กลางตราอาร์ม สองข้างซ้ายขวาประกอบด้วยภาพปีกนกซ้อนทับบนปีกเครื่องบิน
โดยในปีถัดมา (พ.ศ. 2518) คณะผู้ออกแบบพยายามดัดแปลงแก้ไขจากแบบที่เลือกไว้แล้ว จึงได้แบบที่คณะผู้แทนการบินไทยเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ จึงนำมาใช้เป็นตราสัญลักษณ์ใหม่ ซึ่งคณะผู้ออกแบบอธิบายว่าเป็นภาพใบเสมา ซึ่งพบเห็นทั่วไปในประเทศไทย โดยจับวางตะแคงข้าง เพื่อต้องการสื่อถึงความเร็ว เนื่องจากนำมาใช้กับสายการบิน สำหรับสีทองมาจากแสงอร่ามของวัดวาอารามไทย สีม่วงสดมาจากกล้วยไม้ ดอกไม้สัญลักษณ์ของการบินไทย ส่วนสีชมพูมาจากดอกบัว[38]
ทั้งนี้ มักใช้ประกอบกับตัวอักษรชื่อ "ไทย" หรือ "Thai" ตามรูปแบบเดียวกับที่ประกอบอยู่ในตราสัญลักษณ์ใหม่ของเดินอากาศไทย สำหรับตราสัญลักษณ์นี้มักมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า มีความคล้ายคลึงกับลักษณะของดอกรักเสียมากกว่า ผิดแต่เพียงสีที่แท้จริงของดอกรักเป็นขาว โดยตราสัญลักษณ์ดังกล่าวใช้มาถึง 30 ปี จนกระทั่ง พ.ศ. 2548 การบินไทยจัดจ้าง ห้างหุ้นส่วนอินเตอร์แบรนด์ (อังกฤษ: Interbrand Partnership) เป็นผู้ออกแบบลวดลายภายนอกตัวเครื่องบิน พร้อมทั้งเปลี่ยนแปลงสีสันภายในตราสัญลักษณ์ให้สดใสขึ้นกว่าเดิม และปรับปรุงตัวอักษรชื่อที่ประกอบอยู่กับตราสัญลักษณ์ โดยออกแบบขึ้นใหม่ และใช้อักษรอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด[38]
คำขวัญ
คำขวัญภาษาไทยของการบินไทยคือ รักคุณเท่าฟ้า ปรากฏเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2521 เป็นชื่อใหม่ของวารสารภายใน ซึ่งเปลี่ยนจากเดิมคือ ข่าวการบินไทย (เริ่มเมื่อ พ.ศ. 2519) โดยวลีดังกล่าวมีที่มาจาก วิถีชีวิตของชาวไทย ดังที่พ่อแม่มักตั้งคำถามกับลูกว่า รักพ่อแม่แค่ไหน แล้วลูกก็มักตอบว่า "รักพ่อแม่เท่าฟ้า" ซึ่งสื่อความหมายถึงความรักที่กว้างใหญ่ไพศาลไปสุดขอบฟ้า จึงนำมาใช้เชิงเปรียบเทียบกับบริการของการบินไทย ทั้งนี้ คำขวัญของการบินไทยดังกล่าว เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในประเทศไทย จากผลงานเพลงชื่อเดียวกัน ของวงดนตรีเพื่อชีวิต คาราบาว ซึ่งเผยแพร่เป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2528 ส่วนคำขวัญภาษาอังกฤษใช้ว่า Smooth as Silk ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า นุ่มละมุนดุจแพรไหม มีชื่อเสียงมาจากเพลงชื่อเดียวกัน ที่กระจายเสียงภายในเครื่องก่อนเริ่มเที่ยวบิน และที่นำมาใช้ประกอบรายการการบินไทยไขจักรวาล
ฝูงบิน
ในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557 การบินไทยทำการบินด้วยฝูงบิน 102 ลำ โดยรวมการบินไทยสมายล์ มากที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้ง บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท การบินไทยสมายล์ จำกัด
หากไม่รวมการบินไทยสมายล์ การบินไทยทำการบินด้วยฝูงบินสูงสุด 91 ลำ ในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2555[39]
ณ วันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2564 การบินไทยทำการบินทั้งหมด 34 ลำ เมื่อรวมสายการบินไทยสมายล์ ฝูงบินทั้งหมด 103 ลำ
ชนิดเครื่องบิน | แบบ | ประจำการ | สั่งซื้อ | ชั้นที่นั่ง | หมายเหตุ | |||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
F | C | Y | รวม | |||||
แอร์บัส เอ320-200 | 320 | 4 | 2 | — | 12 | 156 | 168 | อยู่ระหว่างการโอนจากการบินไทยสมายล์ |
32S | 6 | 8 | 150 | 162 | ||||
แอร์บัส เอ321นีโอ | TBD | — | 10[40] | เริ่มส่งมอบกลางปี 2568[41] | ||||
แอร์บัส เอ330-300 | 33R | 3 | — | — | 31 | 263 | 294 | นำกลับมาใช้งานบางส่วนหลังจากปลดประจำการ |
แอร์บัส เอ350-900 | 359 | 12 | — | — | 32[a] | 289 | 321 | |
35B | 2 | — | — | 33[b] | 301 | 334 | เช่าระยะยาว – ใช้ผังที่นั่งจากสายการบิน Hainan Airlines | |
35C | 2 | — | — | 30[c] | 309 | 339 | เช่าระยะยาว – ใช้ผังที่นั่งจากสายการบิน South African Airways | |
TBD | — | 7[42] | เช่าระยะยาว | |||||
โบอิง 777-200อีอาร์ | 77E | 6 | — | — | 30 | 262 | 292 | |
โบอิง 777-300อีอาร์ | 77B | 14 | — | — | 42 | 306 | 348 | |
77Y[43][44] | 3 | — | 8 | 40 | 255 | 303 | ทดแทน โบอิง 747[45] | |
โบอิง 787-8 | 788 | 6 | — | — | 22 | 234 | 256 | |
โบอิง 787-9 | 789 | 2 | — | — | 30 | 268 | 298 | |
รวมทั้งหมด | 60 | 27 |
การจัดหา/ปลดระวาง
ณ วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2560 อายุเฉลี่ยของฝูงบินของการบินไทยอยู่ที่ 9.3 ปี[46]
การบินไทยปลดระวาง Boeing 747-400 6 ลำ และปรับปรุงที่นั่งในชั้นทุกชั้น จำนวน 12 ลำ จะปลดระวางระหว่าง พ.ศ. 2555-2556
ปลดระวาง A300-600 15 ลำ บินครั้งสุดท้าย 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
ปลดระวาง Boeing 737-400 10 ลำ จะปลดระวางระหว่าง พ.ศ. 2558-2561 บินครั้งสุดท้าย 2 กันยายน พ.ศ. 2561
ปลดระวาง ATR72-201 2 ลำ ปลดระวางลำแรก เดือน มีนาคม พ.ศ. 2549 ลำที่สอง เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2552
ปลดระว่าง A330-322 12 ลำทั้งหมดใน เดือน สิงหาคม ปี พ.ศ. 2560
จอดเครื่องรอขาย A340-500 4 ลำ จอดเครื่องรอขาย A340-600 6 ลำ บินครั้งสุดท้าย เดือนมีนาคม พ.ศ. 2558
การบินไทยปลดระวาง B747-400BCF 2 ลำในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2558
การบินไทยสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส เอ 380 จำนวน 6 ลำ ซึ่งจะส่งมอบตั้งแต่ พ.ศ. 2555-2556
จัดหาเข้าประจำการ A330-343X 15 ลำ มาครบแล้วเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
B777-300ER สั่งซื้อ 6 ลำ กำหนดมอบส่งครบทุกลำเมื่อ กันยายน พ.ศ. 2558
A350-900 ซื้อ 4 ลำ กำหนดมอบส่งครบ พ.ศ. 2559-2560
A350-900 พ.ศ. 2559-2560 เช่าซื้อ 8 ลำโดยแบ่งเป็น 6 ลำ เช่าซื้อจาก (ALAFCO) ส่งมอบ พ.ศ. 2559 และ 2 ลำ เช่าซื้อจาก (CIT) ส่งมอบ พ.ศ. 2560
B787-8 เช่าซื้อ 6 ลำ มาครบแล้วในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2558
B787-9 เช่าซื้อ 2 ลำ ได้มาครบในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2560
วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 การบินไทยประกาศขายเครื่องบินเพิ่มเติม 22 ลำ ประกอบด้วย B777-200 6 ลำ (HS-TJA, HS-TJB, HS-TJC, HS-TJD, HS-TJG, HS-TJH) / B777-300 6 ลำ (HS-TKA, HS-TKB, HS-TKC, HS-TKD, HS-TKE, HS-TKF) / B747-400 10 ลำ (HS-TGA, HS-TGB, HS-TGF, HS-TGG, HS-TGO, HS-TGP, HS-TGW, HS-TGX, HS-TGY, HS-TGZ) ถือเป็นการปลดประจำการฝูงบิน Boeing 747 และในรุ่น Boeing 777 เหลือเพียงรุ่น ER (Extended Range) เท่านั้น การประกาศขายเครื่องบินในครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการฟื้นฟูกิจการ
วันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2563 การบินไทยประกาศขายเครื่องบินเพิ่มเติมอีก 8 ลำ ประกอบด้วย B777-200ER 6 ลำ แต่ละลำมีอายุประมาณ 14 ปี (HS-TJR, HS-TJS, HS-TJT, HS-TJU, HS-TJV, HS-TJW) และ A380 2 ลำ (HS-TUE, HS-TUF) ที่มีอายุเพียง 7 ปี รวมถึงประกาศขายเครื่องฝึกบิน (simulator) 4 เครื่อง (AB6, 737, 747, A333) และอะไหล่อีกด้วย ทั้งนี้การบินไทยได้เช่าเครื่องบิน B777-300ER เพิ่มเติมอีก 3 ลำ (รหัส 77V) ทะเบียน HS-TTA, HS-TTB และ HS-TTC จาก BOC Aviation เมื่อรวมกับเครื่องในประจำการ (รหัส 77W และ 77B) การบินไทยจะมีฝูงบิน B777 17 ลำ โดยเครื่องที่จัดหาใหม่นี้จะให้บริการในเที่ยวบินยุโรปโดยมีที่นั่งชั้นหนึ่งให้บริการด้วย
จากแผนฟื้นฟูกิจการของการบินไทย นอกจากการประกาศขายเครื่องบินแล้ว ทางบริษัทได้ระบุว่าจะทำการลดรุ่นของฝูงบินเหลือเพียง 6 รุ่น คือ A350XWB, B777-300ER, B787-8, B787-9 A320 ของไทยสไมล์ และนำ A330 จำนวน 3 ลำ กลับมาให้บริการ และลดรุ่นของเครื่องยนต์ของเครื่องบินที่ใช้เหลือ 5 รุ่นเท่านั้น
ฝูงบินในอดีต
เครื่องบิน | ทั้งหมด | ปีที่เริ่มใช้ | ปีที่ปลดประจำการ | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|
เอทีอาร์ 42-320 | 2 | พ.ศ. 2533 | พ.ศ. 2541 | ปลดประจำการ |
เอทีอาร์ 72-201 | 2 | พ.ศ. 2533 | พ.ศ. 2552 | ปลดประจำการ |
แอร์บัส เอ 300B4 | 14 | พ.ศ. 2520 | พ.ศ. 2541 | ปลดประจำการ |
แอร์บัส เอ 300-600R | 21 | พ.ศ. 2528 | พ.ศ. 2557 | ปลดประจำการ |
แอร์บัส เอ 310-200 | 2 | พ.ศ. 2531 | พ.ศ. 2544 | โอนย้ายมาจากเดินอากาศไทย |
แอร์บัส เอ 310-300 | 2 | พ.ศ. 2533 | พ.ศ. 2536 | เกิดอุบัติเหตุทั้ง 2 ลำ |
แอร์บัส เอ 320-200 | 5 | พ.ศ. 2557 | พ.ศ. 2559 | ทั้งหมดได้โอนไปยังการบินไทยสมายล์ |
แอร์บัส เอ 330-300 | 27 | พ.ศ. 2537 | พ.ศ. 2564 | บางส่วนนำมาให้บริการอีกครั้ง |
แอร์บัส เอ 340-500 | 4 | พ.ศ. 2548 | พ.ศ. 2555 | เครื่องบินหนึ่งลำจำหน่ายให้กับกองทัพอากาศไทย
สิ้นเปลืองน้ำมัน |
แอร์บัส เอ 340-600 | 6 | พ.ศ. 2548 | พ.ศ. 2558 | สิ้นเปลืองน้ำมัน |
แอร์บัส เอ 380-800 | 6 | พ.ศ. 2555 | พ.ศ. 2564 | ปลดประจำการก่อนเวลา เนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 |
โบอิ้ง 737-200 | 3 | พ.ศ. 2531 | พ.ศ. 2536 | โอนย้ายจากเดินอากาศไทย |
โบอิ้ง 737-400 | 10 | พ.ศ. 2533 | พ.ศ. 2561 | ปลดประจำการ |
โบอิ้ง 747-200B | 6 | พ.ศ. 2522 | พ.ศ. 2540 | ปลดประจำการ |
โบอิ้ง 747-200SF | 1 | พ.ศ. 2539 | พ.ศ. 2542 | ปลดประจำการ |
โบอิ้ง 747-300 | 2 | พ.ศ. 2530 | พ.ศ. 2550 | ปลดประจำการ |
โบอิ้ง 747-400 | 18 | พ.ศ. 2534 | พ.ศ. 2563 | ปลดประจำการก่อนเวลา เนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 |
โบอิ้ง 747-400BCF | 2 | พ.ศ. 2555 | พ.ศ. 2558 | HS-TGJ ขายให้กับ Terra Avia (ER-BAG)
ปลดประจำการก่อนเวลา เนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 |
โบอิ้ง 777F | 2 | พ.ศ. 2553 | พ.ศ. 2555 | ปลดประจำการ |
โบอิ้ง 777-200 | 8 | พ.ศ. 2539 | พ.ศ. 2563 | |
โบอิ้ง 777-200ER | พ.ศ. 2563 | มีการนำเครื่องบินบางลำ กลับมาให้บริการอีกครั้ง | ||
โบอิ้ง 777-300 | 6 | พ.ศ. 2541 | พ.ศ. 2563 | ปลดประจำการ |
บีเออี 146-100 | 1 | พ.ศ. 2532 | พ.ศ. 2534 | ปลดประจำการ |
บีเออี 146-200 | 1 | พ.ศ. 2532 | พ.ศ. 2533 | ปลดประจำการ |
บีเออี 146-300 | 9 | พ.ศ. 2532 | พ.ศ. 2541 | ปลดประจำการ |
บอมบาร์ดิเอร์ ชาเลนเจอร์ CL-601-3A-ER | 1 | พ.ศ. 2534 | ไม่ทราบ | ปลดประจำการ |
คอนแวร์ 990 โคโรนาโด | 1 | พ.ศ. 2505 | ไม่ทราบ | ดำเนินการโดยสแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์ |
ดักลาส ดีซี-8-33 | 7 | พ.ศ. 2513 | พ.ศ. 2521 | ปลดประจำการ |
ดักลาส ดีซี-8-63 | 3 | พ.ศ. 2517 | พ.ศ. 2527 | ปลดประจำการ |
ดักลาส ดีซี-8-60F | 5 | พ.ศ. 2520 | พ.ศ. 2528 | ปลดประจำการ |
แมคดอนเนลล์ ดักลาส ดีซี-9-41 | 2 | พ.ศ. 2513 | พ.ศ. 2515 | ปลดประจำการ |
แมคดอนเนลล์ ดักลาส ดีซี-10-30 | 6 | พ.ศ. 2518 | พ.ศ. 2530 | ปลดประจำการ |
แมคดอนเนลล์ ดักลาส ดีซี-10-30ER | 3 | พ.ศ. 2530 | พ.ศ. 2541 | ปลดประจำการ |
แมคดอนเนลล์ ดักลาส เอ็มดี-11 | 4 | พ.ศ. 2534 | พ.ศ. 2548 | ปลดประจำการ |
ซัด เอวิเอชั่น SE-210 คาราเวล III | 5 | พ.ศ. 2507 | ไม่ทราบ | ปลดประจำการ |
บริการในห้องโดยสาร
การบินไทยแบ่งการให้บริการภายในห้องโดยสาร ออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่
รอยัลเฟิร์สคลาส (ชั้นหนึ่ง)
ในเครื่องบินแอร์บัส เอ 380-800 ที่นั่งโดยสารถูกออกแบบให้เป็นห้องพักผ่อนส่วนตัว มีความห่างระหว่างแถว 83 นิ้ว ความกว้างที่นั่ง 26.5 นิ้ว สามารถปรับเอนนอนเป็นแนวราบได้ถึง 180 องศาและติดตั้งอุปกรณ์สาระบันเทิงอย่างครบครันด้วยจอภาพ AVOD ระบบสัมผัสขนาด 23 นิ้ว ติดตั้งระบบ Wi-Fi อินเทอร์เน็ตสามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์สื่อสารได้ทุกชนิด พร้อมปลั๊กไฟส่วนตัวสำหรับคอมพิวเตอร์วางตักไว้บริการผู้โดยสาร นอกจากนี้การบินไทยยังติดตั้งห้องน้ำที่มีขนาดใหญ่เป็น 2 เท่าของห้องน้ำปกติ โดยออกแบบให้มีพื้นที่ส่วนตัวสำหรับให้ผู้โดยสารชั้นหนึ่งแต่งตัวได้อย่างสะดวกสบายด้วยเช่นกัน และในชั้นรอยัลเฟิร์สคลาสนี้สามารถเลือกเมนูอาหาร จากเมนูต่าง ๆ ทั้ง 22 รายการก่อนขึ้นเครื่องได้อีกด้วย[47][48]
ปัจจุบันการบินไทยติดตั้งที่นั่งชั้นรอยัลเฟิร์สคลาสในเครื่องบินโบอิง 777-300ER จำนวน 3 ลำ ในเส้นทางลอนดอน โตเกียว และโอซากา
รอยัลซิลค์ (ชั้นธุรกิจ)
เปิดตัวครั้งแรกพร้อมกับแอร์บัส A340-500 มาในลักษณะแบบเปลือกหอย มีการติดตั้งชั้นธุรกิจนี้ในเครื่องบินโบอิง B747-400, 777-300, 777-200, 777-200ER, 777-300ER ความห่างระหว่างที่นั้ง 60-62 นิ้ว และความกว้างของที่นั่ง 20-21.5 นิ้ว สามารถปรับเอนได้สูงสุดถึง 170 องศา ในทุก ๆ ที่นั่งจะมีระบบนวด.โทรทัศน์ส่วนตัวระบบสัมผัส 10.4 และ 15 นิ้ว (ในเก้าอี้แบบใหม่) สามารถปรับเอนนอนเป็นแนวราบได้ถึง 180 องศา และยังมีที่นั่งแบบใหม่ที่ถูกติดตั้งบนแอร์บัส เอ 380 และโบอิง 777-300ER โดยจอ IFE มีขนาดใหญ่ถึง 17 นิ้ว และติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบคาดผ่านเอว นอกจากนี้บนเครื่องบินแอร์บัส เอ 380 ยังมีรอยัลซิลค์ บาร์บริการอาหารและเครื่องดื่มอีกด้วย
อนึ่ง A330-300 รุ่นใหม่จะมีการปรับเปลี่ยนชั้นธุรกิจเป็นแบบใหม่จะมีในรุ่นแบบ A330 และ A33H ในเครื่องบินแบบ A330-343E มีบริการทั้งหมด 15 ลำแบ่งเป็น A330 8 ลำ A33H 7 ลำ ให้บริการในทวีปเอเซีย
พรีเมียมอีโคโนมี (ชั้นประหยัดพิเศษ)
เป็นการนำที่นั่งชั้นรอยัลซิลค์ในช่วงแถวหลังจากประตูคู่ที่สองของเครื่องบินลงมา มาขายในราคาที่ถูกลง แต่ในส่วนของการให้บริการอื่นๆ จะเหมือนกับชั้นประหยัดปกติ โดยให้บริการเฉพาะเที่ยวบินในแถบสแกนดิเนเวีย ที่ทำการบินโดยเครื่องบินรุ่น โบอิง B777-300ER
ชั้นประหยัด
ขนาดที่นั่งในชั้นประหยัดของการบินไทย มีขนาดใหญ่ถึง 36 นิ้ว ต่างจากโดยทั่วไปที่มีขนาด 34 นิ้ว โดยแถวที่นั่งจะถูกจัดวางในรูปแบบดังต่อไปนี้
- แบบ 3-4-3 ในเครื่องบินแอร์บัส เอ 380-841 (ชั้นล่าง)
- แบบ 3-3-3 ในเครื่องบินโบอิง 787-8 และ 777-300ER
- แบบ 2-4-2 ในเครื่องบินแอร์บัส เอ 330-343, เอ 380-841 (ชั้นบน)
ทุกที่นั่งในชั้นประหยัดบนเครื่องบิน แอร์บัส A330-300 จะถูกติดตั้งระบบมัลติมีเดีย (AVOD) หน้าจอระบบสัมผัส 9 นิ้ว ในทุกที่นั่ง แอร์บัส A33H 7 ลำ, A380-800 4 ลำ, โบอิง B777-300ER จะถูกติดตั้งระบบมัลติมีเดีย (AVOD) ระบบปฏิบัติการ หน้าจอระบบสัมผัส 10.6 นิ้ว และเครื่องบินแบบ โบอิง B787-8 จะถูกติดตั้งระบบมัลติมีเดีย (AVOD) ระบบปฏิบัติการ หน้าจอระบบสัมผัส 11 นิ้ว
นิตยสารประจำเที่ยวบิน
นิตยสารประจำเที่ยวบิน (Inflight Magazine) ของการบินไทย มีชื่อว่า "สวัสดี " (อังกฤษ: Sawasdee) ออกเป็นฉบับปฐมฤกษ์เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2514 เนื้อหาส่วนมากนำเสนอบทความสารคดี ว่าด้วยความเป็นไทย โดยเฉพาะประเพณีและวัฒนธรรม ที่เขียนขึ้นใหม่โดยเฉพาะเป็นภาษาอังกฤษทั้งฉบับ มิได้นำบทความที่เคยตีพิมพ์ในนิตยสารอื่นมาลงซ้ำ นอกจากนั้น ยังมีภาพประกอบที่สวยงามโดดเด่นอีกด้วย
นิตยสารประจำเที่ยวบินของเดินอากาศไทย มีชื่อว่า "กินรี " (อังกฤษ: Kinnaree) ออกเป็นฉบับปฐมฤกษ์เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2527 เนื้อหาส่วนมากนำเสนอบทความสารคดี ว่าด้วยสารบันเทิงปกิณกะ โดยเฉพาะความเป็นไทย ประเพณีและวัฒนธรรมไทย ซึ่งเขียนขึ้นใหม่โดยเฉพาะเป็นภาษาไทยทั้งฉบับ อนึ่ง ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2531 กินรีออกฉบับพิเศษ "41 ปี เดินอากาศไทย" ก่อนที่จะรวมกิจการเข้ากับการบินไทย ในวันที่ 1 เมษายนด้วย
หลังจากนั้น การบินไทยจึงเป็นเจ้าของนิตยสารทั้งสองฉบับ โดยสวัสดียังคงเป็นนิตยสารประจำเที่ยวบินระหว่างประเทศ และกินรีกลายเป็นนิตยสารประจำเที่ยวบินภายในประเทศ จนกระทั่งในเดือนเมษายน พ.ศ. 2552 มีการเปลี่ยนแปลงให้นิตยสารสวัสดี ตีพิมพ์เป็นสองภาษาควบคู่กัน โดยให้บริการทั้งเที่ยวบินระหว่างประเทศและภายในประเทศ ส่วนนิตยสารกินรี การบินไทยขายกิจการไปให้กับธนาคารกรุงเทพ เพื่อใช้เป็นชื่อนิตยสารสำหรับลูกค้าธนาคารที่เป็นสมาชิก
อุบัติการณ์และอุบัติเหตุ
การบินไทยมีอุบัติการณ์มากกว่าอุบัติเหตุ ซึ่งหมายถึงการทำการบินที่ผู้โดยสารบาดเจ็บเล็กน้อยหรือไม่บาดเจ็บเลย รวมถึงการขู่ว่ามีการวางระเบิด อย่างไรก็ตาม อุบัติการณ์และอุบัติเหตุของการบินไทยค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับสายการบินอื่น ๆ ทั่วโลก
- 30 มิถุนายน พ.ศ. 2510 - การบินไทย เที่ยวบินที่ 601 เครื่องบิน Sud Aviation SE-210 Caravelle III ทะเบียน HS-TGI ของการบินไทย บินจากซงชาน กรุงไทเป ไปยังสนามบินฮ่องกง (ไคตั๊ก) เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตกขณะทำการลงจอดในขณะที่มีพายุไต้ฝุ่น เสียชีวิต 24 คน บาดเจ็บหนัก 56 คน โดยมีผู้โดยสารทั้งหมด 73 คน ลูกเรือ 7 คน[49]
- 25 ธันวาคม พ.ศ. 2510 - การบินไทย เที่ยวบินที่ 002 เครื่องบิน Douglas DC-3 ทะเบียน HS-TDH บินจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ประสบอุบัติเหตุตก มีผู้โดยสารเสียชีวิต 2 คน ลูกเรือ 2 คน จากจำนวนผู้โดยสาร 28 คน ลูกเรือ 3 คน[50]
- 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 - การบินไทยไม่ทราบเทื่ยวบิน เครื่องบิน Douglas DC-8 ทะเบียน HS-TGU บินจากกรุงเทพไปเนปาลเกิดอุบัติเหตุลื่นไถลออกนอกรันเวย์มีผู้เสียชีวิตที่ภาคพื้นดินเป็นประชาชนชาวเนปาล 1 ราย[51]
- 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2535 - การบินไทย เที่ยวบินที่ 311 เครื่องบินแอร์บัส เอ 310-304 ทะเบียน HS-TID ของการบินไทย ชนเทือกเขา 35 กม. ทางเหนือของกาฐมานฑุ ผู้โดยสาร 113 คนเสียชีวิต (ผู้โดยสาร 99 คน และ พนักงาน 14 คน) สาเหตุเกิดจากปัญหาทางเทคนิคและอาการหลงทิศของนักบินเนื่องจากสภาพอากาศปิด[52]
- 11 ธันวาคม พ.ศ. 2541 – การบินไทย เที่ยวบินที่ 261 เครื่องบินแอร์บัส เอ 310-304 ทะเบียน HS-TIA ของการบินไทย จากกรุงเทพไปสุราษฎร์ธานี ตกสาเหตุเนื่องจากฝนตกหนักมาก ผู้โดยสาร 102 คน จาก 143 คน เสียชีวิต[53]
- 3 มีนาคม พ.ศ. 2544 – การบินไทย เที่ยวบินที่ 114 เครื่องบินโบอิง 737-4D7 ทะเบียน HS-TDC ของการบินไทย จากกรุงเทพไปเชียงใหม่ เกิดระเบิดขึ้นในขณะที่จอดที่สนามบิน เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 8คน สาเหตุเกิดจากน้ำมันกับอากาศเข้าผสมกัน และเกิดการสันดาปขึ้นในส่วนของถังน้ำมันเนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัด[54]
- 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - การบินไทยเที่ยวบินที่ 600 เครื่องบินแอร์บัส 380-841ทะเบียน HS-TUA ของการบินไทยจากกรุงเทพไปฮ่องกงเกิดตกหลุมอากาศผู้โดยสารบาดเจ็บ 38 ราย ลูกเรือบาดเจ็บ 9 รายลูกเรือบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ภายในเครื่องบินได้รับความเสียหาย[55]
- 8 กันยายน พ.ศ. 2556 - การบินไทยเที่ยวบินที่ 679 เครื่องบิน แอร์บัส 330-300 ทะเบียน HS-TEF ของการบินไทย จากกวางโจวไปกรุงเทพ เกิดอุบัติเหตุล้อหลังด้านขวาของเครื่องบินขัดข้อง ขณะร่อนลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งผลให้เครื่องบินไถลออกนอกรันเวย์มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 12 ราย[56]
- 12 เมษายน พ.ศ. 2558 - การบินไทยเที่ยวบินที่ 641 เครื่องบิน แอร์บัส 340-600 ทะเบียน HS-TNF ของการบินไทย จากนะริตะไปกรุงเทพ เกิดอุบัติเหตุตกหลุมอากาศผู้โดยสารบาดเจ็บเล็กน้อย 12 ราย[57]
- 12 เมษายน พ.ศ. 2559 - การบินไทยเที่ยวบินที่ 434 เครื่องบิน โบอิง 777-200 ทะเบียน HS-TJH ของการบินไทย จากจาร์กาตาไปกรุงเทพ เกิดอุบัติเหตุตกหลุมอากาศผู้โดยสารบาดเจ็บเล็กน้อย 6 ราย[58]
- 21 กันยายน พ.ศ. 2559 - การบินไทยเที่ยวบินที่ 221 เครื่องบิน แอร์บัส 350-900 ทะเบียน HS-THB ของการบินไทย จากกรุงเทพไปภูเก็ต เกิดอุบัติการณ์ยางล้อแตกขณะลงจอด[59]
- 4 ธันวาคม พ.ศ. 2560 - การบินไทยเที่ยวบินที่ 349 เครื่องบินแอร์บัส 330-300 ทะเบียน HS-TES ของการบินไทย เกิดอุบัติการณ์ไถลอกนอกรันเวย์ที่สนามบินอิสลามาบาด[60]
- 11 เมษายน พ.ศ. 2561 - การบินไทยเที่ยวบินที่ 660 เครื่องบิน โบอิง 747-400 ทะเบียน HS-TGX ของการบินไทย เกิดอุบัติการณ์สัญญาณเตือนของระบบเตือนเครื่องบินใกล้พื้นดิน[61]
- 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 - การบินไทยเที่ยวบินที่ 321 เครื่องบิน โบอิง 777-200 ทะเบียน HS-TJD ของการบินไทย เกิดอุบัติการณ์ยางล้อระเบิดที่ท่าอากาศยานธากา
- 3 ตุลาคม พ.ศ. 2561 - การบินไทยเที่ยวบินที่ 349 เครื่องบินแอร์บัส 330-300 ทะเบียน HS-TEQ ของการบินไทย เกิดอุบัติการณ์เครื่องบินชนนกขณะลงจอดที่สนามบินอิสลามาบาด[62]
- 8 ตุลาคม พ.ศ. 2561 - การบินไทยเที่ยวบินที่ 679 เครื่องบิน โบอิง 747-400 ทะเบียน HS-TGF ของการบินไทย จากกวางโจวไปกรุงเทพ เกิดอุบัติการณ์เครื่องลื่นไถลออกนอกรันเวย์
- 10 มิถุนายน พ.ศ. 2566 - การบินไทยเที่ยวบินที่ 683 เครื่องบิน Airbus A330-300 ทะเบียน HS-TEO จากโตเกียวฮาเนดะไปกรุงเทพ เกิดอุบัติการณ์ปลายปีกเฉี่ยวชนกับหางเครื่องบินของสายการบิน EVA air
การบินไทยไขจักรวาล
การบินไทยเป็นผู้สนับสนุนให้มีรายการโทรทัศน์ ประเภทตอบปัญหาชิงรางวัลและทุนการศึกษาแก่เยาวชน ซึ่งมีชื่อว่า "การบินไทยไขจักรวาล" ที่จัดแข่งขันระหว่างนักเรียนระดับชั้นมัธยมผู้แทนโรงเรียนต่าง ๆ กลุ่มละสามคน โดยแต่ละครั้งจะแข่งขันกันระหว่างสองโรงเรียน ดำเนินรายการโดย พลตรีถาวร ช่วยประสิทธิ์ (พ.ศ. 2518-2521) และหม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ (พ.ศ. 2521-2546) (เวลาต่อมาจึงได้เพิ่ม รัตน์มณี มณีรัตน์ เป็นพิธีกรดำเนินรายการร่วมไปด้วย ซึ่งบางครั้งทำหน้าที่ดำเนินรายการแทนเพียงคนเดียว) ออกอากาศทุกวันอังคาร สัปดาห์ที่ 1 และ 3 ของเดือน เวลา 17:00-17:30 น. (ต่อมาย้ายไปออกอากาศทุกวันศุกร์ สัปดาห์และเวลาออกอากาศเดียวกัน) ถ่ายทอดสดจากห้องส่งสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก เป็นระยะเวลาถึง 28 ปี ระหว่าง พ.ศ. 2518-พ.ศ. 2546 ทั้งนี้ นักเรียนที่ชนะการตอบปัญหาประจำสัปดาห์ จะได้รับทุนการศึกษา ส่วนนักเรียนที่ชนะเลิศการตอบปัญหาประจำปี จะได้รับรางวัลเป็นตั๋วเครื่องบินไปกลับต่างประเทศ พร้อมกิจกรรมทัศนศึกษา ซึ่งการบินไทยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด
คดีความ
การบินไทยได้ฟ้องร้องโคอิโตะ ในกรณีที่มิสามารถติดตั้งเก้าอี้โดยสารภายในเครื่องบินแอร์บัส เอ 330 ในชั้นประหยัดทั้ง 5 ลำได้ส่งผลให้การบินไทยไม่มีโอกาสในการนำเครื่องบินบริการแก่ผู้โดยสาร ค่าเสียโอกาสในการบำรุงเครื่องบินและยังต้องหาบริการอื่นๆเพื่อดำเนินการในการติดตั้งเก้าอี้โดยสารใหม่ กรณีนี้เกิดขึ้นเมื่อการบินไทยว่าจ้างโคอิโตะติดตั้งเก้าอี้ในชั้นประหยัดโดยในระยะแรกเป็นไปด้วยดีแต่เมื่อถึงต้นปี พ.ศ. 2553 บริษัทดังกล่าวไม่ได้การรับรองจากกรมการบินประเทศญี่ปุ่นเนื่องจากการที่ดังกล่าวบริษัทเปลี่ยนมาตรฐาน ส่งผลให้ 2 รายการ จาก 18 รายการ ไม่ได้รับการรับรองความปลอดภัยจากประเทศญี่ปุ่น[63] เรื่องดังกล่าวนอกจากกระทบต้องเครื่องบินแบบแอร์บัส เอ 330 ยังกระทบต่อเครื่องบินแบบโบอิง 777-300 HS-TKE[64] โดยเครื่องบินลำดังกล่าวขายที่นั่งได้น้อยลงเพราะต้องขายเฉพาะที่นั่งที่ติดตั้งจากบริษัทโคอิโตะเพียงส่วนหนึ่งก่อนที่บริษัทดังกล่าวจะถูกถอนใบอนุญาต[65]
กรณีดังกล่าวยังได้ส่งผลกระทบต่อความยากลำบากในการให้บริการบนเครื่องบินแบบแอร์บัส เอ 330 เนื่องจากเครื่องบินมีการจ้างบริษัทที่ติดตั้งเก้าอี้แตกต่างกัน โดย 12 ลำแรก HS-TEA ถึง HS-TEM รหัส A333 เป็นการออกแบบที่นั่งแบบหนึ่ง ซึ่งไม่มีจอส่วนตัวให้ผู้โดยสารใช้เครื่องยนต์ PW4000 8 ลำต่อมาตั้งแต่ HS-TEN ถึง HS-TEU A330 ก็เป็นอีกแบบหนึ่งซึ่งมีจอส่วนตัวให้ผู้โดยสาร ใช้เครื่องยนต์ Rolls Royce Trent 700 ส่วนในชุดสุดท้ายเป็นการออกแบบที่นั่งอีกแบบหนึ่งซึ่งทันสมัยมากที่สุดรหัส A33H ใช้เครื่องยนต์ Rolls Royce Trent 700 นอกจากนั้นแล้วใน 4 ลำดังกล่าวการบินไทยได้เริ่มใช้รหัสใหม่เป็น HS-TBA ซึ่งโดยปกติแล้วแอร์บัส เอ 330 จะใช้รหัสเป็น HS-TE_ ทั้งนี้เพื่อกันความสับสนของนักบินและลูกเรือซึ่งใน 7 ลำดังกล่าวได้เลิกใช้การติดตั้งเก้าอี้ของบริษัทโคอิโตะในชั้นประหยัด
ดูเพิ่ม
เชิงอรรถ
อ้างอิง
- ↑ "List of Thailand Air Operator Certificate Holders". Civil Aviation Authority of Thailand. 22 March 2021. สืบค้นเมื่อ 22 March 2021.
- ↑ 2.0 2.1 2.2 "THAI : THAI AIRWAYS INTERNATIONAL PUBLIC COMPANY LIMITED". Stock Exchange of Thailand (SET). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-06-09. สืบค้นเมื่อ 9 June 2023.
{cite web}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์) - ↑ "'การบินไทย' ลุยท่องเที่ยวไฮซีซัน เพิ่มพนักงาน 'เอาท์ซอร์ส' ระยะสั้น". Bangkok Business News. Bangkok. 12 October 2022. สืบค้นเมื่อ 14 December 2022.
- ↑ ประวัติ บมจ.การบินไทย เก็บถาวร 2011-11-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน จากเว็บไซต์การบินไทย
- ↑ "บริษัทร่วมทุน นกแอร์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-05. สืบค้นเมื่อ 2014-10-01.
- ↑ "ผู้จัดการสายการบินแรกที่บินการบินไทย". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-09-14. สืบค้นเมื่อ 2010-09-09.
- ↑ ประวัติบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เก็บถาวร 2014-01-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน ในเว็บไซต์การบินไทย
- ↑ หนังสือกรมบัญชีกลาง ลงวันที่ 2 มีนาคม 2559
- ↑ 'การบินไทย' พ้นสภาพรัฐวิสาหกิจแล้ว หลัง 'คลัง' ขายหุ้นให้วายุภักษ์วันนี้ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2563)
- ↑ การบินไทยตั้งบอร์ดใหม่ 4 คน มีผล 25 พฤษภาคม 2563 จาก ไทยพีบีเอส
- ↑ "วิษณุ" รับ "ไพรินทร์" ลาออกบอร์ดการบินไทย ลดเสี่ยง-รักษาธรรมาภิบาล จาก ไทยรัฐออนไลน์
- ↑ aof (2021-06-15). "ศาลล้มละลายเห็นชอบแผนฟื้นฟู "การบินไทย" ตั้ง 5 ผู้บริหารแผน". ประชาชาติธุรกิจ.
- ↑ การบินไทยรุกยื่นขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการสร้างความเชื่อมั่นรับธุรกิจการบินฟื้นตัว จาก thaiairways.com
- ↑ การบินไทยแจ้งมติที่ประชุมเจ้าหนี้ในการแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการ จาก thaiairways.com
- ↑ ศาลล้มละลายกลางเห็นชอบการขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการการบินไทย จาก thaiairways.com
- ↑ การพ้นจากตำแหน่งของผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จาก set.or.th
- ↑ "ที่ประชุมคณะกรรมการเจ้าหนี้เห็นชอบการปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจกลุ่มธุรกิจการบินของการบินไทย". www.thaiairways.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 9 พฤษภาคม 2566.
{cite web}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|access-date=
(help)CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "หุ้น บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-07-18. สืบค้นเมื่อ 2020-07-18.
- ↑ "World Airline Directory." Flight International. 13 April 1961. Page 509.
- ↑ "World Airline Directory." Flight International. 26 March 1970. Page 503.
- ↑ "World Airline Directory." Flight International. 26 July 1980. Page 359.
- ↑ ‘การบินไทย’ ประกาศขายทรัพย์ฯ 10 รายการ เลหลัง ‘สนง.หลานหลวง-อาคารรักคุณเท่าฟ้า’
- ↑ "งบการเงินการบินไทย". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-02-05. สืบค้นเมื่อ 2018-06-13.
- ↑ 24.0 24.1 "Thai Airways International Public Company Limited : Annual Report 2011" (PDF). Thai Airways International. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2016-03-24. สืบค้นเมื่อ 17 May 2015.
- ↑ 25.0 25.1 25.2 "Thai Airways International Public Company Limited : Annual Report 2014". Thai Airways International. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-04-28. สืบค้นเมื่อ 17 May 2015.
- ↑ 26.0 26.1 Kositchotethana, Boonsong (26 May 2015). "Carriers in Asia Pacific stuck in red". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2 June 2015.
- ↑ "กรุงไทยยอม'ทีจี'ขายทิ้งหุ้นนกแอร์165ล้าน". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-12-20. สืบค้นเมื่อ 2012-04-09.
- ↑ AFFILIATES
- ↑ AFFILIATES
- ↑ THAI Cargo Adds Xiamen Service from June 2014
- ↑ 31.0 31.1 31.2 ข้อมูลเกี่ยวกับฝ่ายครัวการบินไทย เก็บถาวร 2012-11-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน จากเว็บไซต์ฝ่ายครัวการบินไทย
- ↑ ประวัติความเป็นมาของร้านพัฟแอนด์พาย เก็บถาวร 2012-08-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน จากเว็บไซต์พัฟแอนด์พาย
- ↑ "TG770" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2018-11-10. สืบค้นเมื่อ 2018-06-15.
- ↑ การบินไทยผงาดอันดับ7แอร์ฯฮอตสุดของโลก
- ↑ ผู้โดยสารการบินไทยที่อาการโรคหัวใจกำเริบ ปลอดภัยแล้ว
- ↑ "การบินไทยมุ่งสู่การยอมรับระดับสากล". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-05-23. สืบค้นเมื่อ 2012-06-14.
- ↑ 52 ปี การบินไทย นี้ดี[ลิงก์เสีย]
- ↑ 38.0 38.1 38.2 38.3 สัญลักษณ์การบินไทย เก็บถาวร 2012-09-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน ในเว็บไซต์การบินไทย
- ↑ รายงานประจำปี[ลิงก์เสีย]
- ↑ "Thai to add A321neos from mid-2025: CEO". FlightGlobal. 2023-06-05. สืบค้นเมื่อ 2023-06-06.
- ↑ Udol, Indy (2023-06-10). "Thai Airways to add A321neo aircraft in 2025". AviationSource News (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2023-06-11.
- ↑ ""การบินไทย"ชงคณะกรรมการเจ้าหนี้ไฟเขียวควบรวม"ไทยสมายล์" สัปดาห์หน้า". ฐานเศรษฐกิจ. 2023-05-12. สืบค้นเมื่อ 2023-05-14.
- ↑ รูปภาพเครื่องบิน HS-TTA กำลังออกจากสายการผลิต. 9 ธันวาคม 2563. สืบค้นเมื่อ 10 ธันวาคม 2563.
- ↑ เผยโฉม “โบอิ้ง 777” ฝูงบิน 1 ใน 3 ลำใหม่ของการบินไทย ลำตัวกว้างพิสัยไกล. 9 ธันวาคม 2563. สืบค้นเมื่อ 29 มีนาคม 2564.
- ↑ Thai Airways puts the brakes on new Boeing 777s. 11 ธันวาคม 2563. สืบค้นเมื่อ 13 ธันวาคม 2563.
- ↑ Thai Airways International Fleet Details and History
- ↑ Thai Airways A380
- ↑ "บริการการบินไทย". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-12-01. สืบค้นเมื่อ 2012-03-17.
- ↑ Sud Aviation SE-210 Caravelle III
- ↑ "ACCIDENT DETAILS". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-01-10. สืบค้นเมื่อ 2011-04-25.
- ↑ "Douglas DC-8-33". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-10-20. สืบค้นเมื่อ 2011-05-15.
- ↑ รายละเอียดเครื่องบินตก 2535
- ↑ รายละเอียดเครื่องบินตก 2541
- ↑ รายละเอียดเครื่องบินระเบิด 2544
- ↑ Accident: Thai A388 at Hong Kong on Aug 30th 2013, turbulence injures 39
- ↑ Accident: Thai A333 at Bangkok on Sep 8th 2013, runway excursion on landing
- ↑ Accident: Thai A340 at Bangkok on Feb 26th 2015, turbulence in the airspace
- ↑ Accident: Thai B777 at Singapore on Apr 12th 2016, turbulence in the airspace
- ↑ Incident: Thai A359 at Phuket on Sep 21st 2016, temporary runway excursion on landing
- ↑ Incident: Thai A333 at Islamabad on Dec 4th 2017, overran runway on landing
- ↑ Boeing 747-4D7
- ↑ Incident: Thai A333 at Islamabad on Oct 3rd 2018, bird strike
- ↑ การบินไทยเล็งฟ้องโคดิโตะผลิตเก้าอี้เร่งหารายใหม่แทน
- ↑ THAI Airways TG103 : CNX-BKK
- ↑ การบินไทยรักคุณเท่าฟ้า[ลิงก์เสีย]